รีวิว Death on the Nile

รีวิว Death on the Nile

หนังเรื่อง Death on the Nile ฆาตกรรมบนลำน้ำไนล์ ผมได้รีวิว ออกมาจาก ความรู้สึกส่วนตัว นะครับ หากไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ก่อนจะเริ่มรีวิว เรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่า ดูหนังออนไลน์

ภาพยนตร์เรื่อง Death on the Nile (2022) นั้นดัดแปลงมาจากหนังสือ ในชื่อเดียวกัน ซึ่งเป็นนิยาย สืบสวนสอบสวน ที่ถูกตีพิมพ์ ในปี ค.ศ.1937 ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราว จากปลายปากกา ของ Agatha Christie (อากาธ่า คริสตี้) โดยในภาคนี้ ยังคงติดตาม การสืบคดีของ นักสืบ เออร์กูล ปัวโรต์ ที่ภาคนี้เขาถูกจ้างไ ปสืบคดี และได้บังเอิญไ ปขึ้นเรือสำราญบนแม่น้ำไนล์ ระหว่างทริปล่องเรืออันสงบสุข จู่ๆในเช้าวันหนึ่ง เขาต้องได้พบเจอ กับคดีฆาตกรรม ลินเน็ต ลิตเวย์  ทำให้การพักผ่อน ของเขาครั้งนี้ ต้องกลายเป็นการทำงาน แบบเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนักสืบ ปัวโรต์ ต้องทำการสืบคดี หาข้อมูล และนำข้อมูลมาปะติดปะต่อ เป็นเรื่องราวเพื่อไขปริศนา และตามหาฆาตกรตัวจริง ท่ามกลางทิวทัศน์ และวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ของเมื่ออียิปต์ ความพิเศษของเล่มนี้ก็คือ มันถูกวางไว้ให้เป็นภาคต่อ ของ Murder on the Orient Express ในฉบับภาพยนตร์ด้วย ดูหนังฟรี

การแสดง : ในส่วนของการแสดง ในเรื่องนี้ สำหรับผมคิดว่านักแสดงทุกคน แสดงได้ดี และสมบทบาท แคสต์นักแสดงมาดี ที่จะโดดเด่น ก็คงจะเป็นตัวละครหลัก อย่าง นักสืบ ปัวโรต์ ที่แสดงโดย เคนเนธ บรานาห์ คนดีคนเดิม แถมแกทั้งแสดงนำ และกำกับเองอีกต่างหาก เทพจริงๆ ในภาคนี้เขายังแสดงได้ดี สมบทบาทเหมือนเดิม ยังคงเป็นนักสืบ ที่มีความเพอร์เฟ็คชั่นนิส อยู่ตลอดเวลา มีเสน่ห์และเท่มากๆ แต่นักแสดงคนอื่นๆ ก็แสดงดีเหมือนกันอย่าง ลินเน็ต ลิตเวย์ ที่รับบทโดย กัล กาด็อต ที่มาน้อยแต่มาก เล่นดีทุกซีนทุกฉาก สวยสง่า ไฮโซ คือดูแล้วเชื่อว่าเป็นสาวไฮโซจริงๆ และอีกคนที่ชอบก็ เอ็มมา แม็คเคย์ ที่รับบทเป็น แจ็คเกอลีน ซึ่งเรื่องนี้ น่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรก ที่เธอเล่นเลยมั้ง แต่เธอ เล่นได้ดีมากๆ การแสดงออก ทางสีหน้ามันชัดเจน และตีบทแตกจริงๆ เล่นได้น่าหมันไส้เหลือเกิน ส่วนคนอื่นๆ ทุกคนเล่นได้ดีหมด ตามมาตรฐาน หนังสืบสวน สอบสวน อาชญากรรม

เสื้อผ้าหน้าผม : ในส่วนนี้ทำออกมาได้ดี เสื้อผ้าหน้าผมตัวละคร ทุกตัวดีมาก มาตรฐานเดียวกับภาคแรกเลย ชุดสวยทุกชุด ส่วนตัวชอบชุดสีแดงของตัวละคร แจ็คกี้ ที่รับบทโดย เอ็มมา แม็คเคย์ ชุดแดงที่ใส่ตอนมาป่วนงานแต่ง ตอนต้นเรื่อง ชุดนั้นสวยจริง บวกกับการแสดงของ เอ็มมา ทำให้ดูร้ายลึก น่าหมันใส้เข้าไปอีก

บท : บทส่วนใหญ่น่าจะดัดแปลงมาจากนิยาย แต่การทำหนังมันต้องมีการคัดกรองบทใหม่ ตัดให้กระชับและสามารถเข้าใจได้ แต่ก็ห้ามลืมมิติของตัวละคร ซึ่งตัวละครในหนังมันเยอะมากๆ แต่เรื่องนี้ก็เกลี่ยบทได้ดี ทำให้ตัวละครทุกตัวมีมิติและคนดูได้รู้ปูมหลังของตัวละคร ซึ่งหนังใช้เวลาเพียงแปปเดียว ในการเล่าอดีตของตัวละครแต่ละตัว ในส่วนนี้ยังทำได้ดีเหมือนภาคแรก แต่สิ่งที่ภาคนี้ต่างคือการหักมุม พลิกไป พลิกมา ทั้งเรื่องแบบหลอกใ ห้เราเชื่อแบบนี้แล้วก็หัก แล้วหักอีก ซึ่งต่างจากภาคแรก ที่เราตามนักสืบ ปัวโรต์ ไปเรื่อยๆ และมาหักตอนจบ โดยรวมแล้วบททำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ซ่อนรายละเอียดต่างๆไว้ได้ดี

การดำเนินเรื่อง : การดำเนินเรื่องของภาคนี้ก็ทำได้ดีเหมือนเดิม แต่แค่อาจจะยืดและช้ากว่าภาคแรกซักหน่อย แบบค่อยเป็นค่อยไป ให้ทำความรู้จักตัวละครก่อน เพราะมันมีพาร์ทดราม่า ความรักผสมอยู่ด้วย จึงต้องใช้เวลาเล่าในส่วนนี้ ซึ่งกว่าจะเริ่มสืบคดีจริงๆก็ปาไปครึ่งเรื่องแล้ว ในจุดนี้ทำให้บางคนอาจจจะไม่ชอบ และเบื่อในช่วงต้นเรื่อง แต่หลังจากเริ่มสืบคดีแล้ว สนุกเหมือนเดิม ส่วนตัวผมชอบการดำเนินเรื่องของภาคแรกมากกว่า รู้สึกว่ามันน่าติดตามและกระชับรวดเร็วกว่ามาก มันดูไวๆแต่มีเสน่ห์ แต่คนอื่นอาจจะชอบภาคนี้มากกว่า

งานภาพ : งานภาพทำออกมาได้ดีเยี่ยมเหมือนภาคแรก ภาพสวยอยู่ในมาตรฐาน แต่ก็ไม่ได้ถึงกับสวยมากๆ สวยเวอร์วังอะไรขนาดนั้น แต่ส่วนตัวด้านงานภาพผมก็ชอบของภาคแรกมากกว่าอยู่ดี แต่ไม่ได้มาก ภาคนี้ก็มีการเล่นกับงานภาพในบางฉาก เหมือนกับภาคแรก เรียกได้ว่าไม่ได้ทิ้งเสน่ห์ของแฟรนไชส์ชุดนี้ทิ้งแต่อย่างใด ดีงามเหมือนเดิมไม่ผิดหวังแน่นอน

การโปรดักชั่น : งานโปรดักชั่นทำได้ดีทักเทียมภาคแรกเลย มาตรฐานเดิมไม่ตกหล่น ดีงามจริงๆ ไม่ต้องพูดเยอะ ทั้งฟิลเตอร์หนังที่ใช้ และเสียงเพลงประกอบฉากต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี โลเคชั่นต่างๆสวยงาม ส่วนตัวชอบโลเคชั่นช่วงต้นเรื่องตอนยังไม่ได้ขึ้นเรือมากกว่า รู้สึกว่าบนเรือมันไม่ค่อยสวยยังไงไม่รู้ ชอบรถไฟของภาคแรกมากกว่า ที่มีความเรียบหรูมากกว่า แต่เรือในภาคนี้ก็หรู มันคนละยานพาหนะจะให้ความรู้สึกแบบเดียวกันก็คงไม่ได้ แต่โดยรวมแล้วทำออกมาได้ดีแล้ว

โดยรวมแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ในระดับมาตรฐาน ไม่แย่ค่อนไปทางดีด้วย ซึ่งเนื้อเรื่องและการสืบสวนก็ยังคงซับซ้อนเหมือนเคย งานภาพและเอกลักษณ์ของหนังก็ยังมีให้เห็นในภาคนี้ แต่ส่วนตัวผมรู้สึกประทับใจภาคแรกมากกว่าในทุกๆด้าน ทั้งการเล่าเรื่อง งานสร้าง การตัดต่อ การแสดง ทุกๆอย่างของภาคแรก ผมรู้สึกว่ามันทำได้ดีกว่า แต่ไม่ได้แปลว่าภาคนี้ไม่สนุกนะ สนุกเหมือนเดิม รับประกันไม่เสียดายเงินค่าตั๋วแน่นอน และภาคนี้ก็มีประเด็นบางประเด็นที่ไม่มีในภาคแรก คือค่อนข้างแตกต่างจากภาคแรกอย่าง Murder on the Orient Express อยู่พอสมควร เพราะภาคนี้มีการโฟกัสไปที่ประเด็นความรัก ดราม่า และแน่นอน มันมีความน้ำเน่าอยู่ระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ขนาดนั้น เพราะยังมีการสืบคดีที่เข้มข้นเหมือนเดิม แถมภาคนี้ยังมีการหักมุมหลายตลบจน หักไปหักมา สนุกดี ให้ความรู้สึกที่ต่างจากภาคแรก และมีการเล่นประเด็นความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนระหว่างนักสืบปัวโรต์ และบุ๊ค เพื่อนรักของเขาที่เป็นลูกมือมาตั้งแต่ภาคแรก ซึ่งผมชอบพาร์ทความสัมพันธ์ของทั้งคู่มากที่สุดในหนังเรื่องนี้เลย สรุปแล้ว ผมขอให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้ที่ 7.5/10

________________________________________

• ชื่อเรื่อง : Death on the Nile (ฆาตกรรมบนลำน้ำไนล์)
• ความยาว : 2 ชั่วโมง 7 นาที
• วันที่ฉาย : 10 กุมภาพันธ์ 2022
• แนว : สืบสวนสอบสวน , ลุ้นระทึก , ฆาตกรรม
• ผู้กำกับ : Kenneth Branagh
• ช่องทางการรับชม : วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์