รีวิว Re/member

รีวิว Re/member “ตายกี่ครั้งก็ยังไม่ชิน” นี่คือคำนิยามที่ผมให้ไว้กับภาพยนตร์เรื่อง Re/Member ตามล่าศพสยอง ภาพยนตร์สยองขวัญจากประเทศญี่ปุ่น ที่เข้ามาฉายในประเทศไทยทาง Netflix ที่สำคัญมีพากษ์ไทยด้วยนะ ไม่ต้องเพ่งสายตาอ่านซับไตเติลกันจนตาถลน ดูหนังออนไลน์

หนังผีญี่ปุ่นอาจจะเป็นแนวที่คนจดจำว่าน่ากลัวมาจากสมัยจูออง เดอะริง แต่มาตอนนี้คือแทบไม่มีเรื่องไหนแปลกใหม่หรือก้าวไปเทียบชั้นรุ่นพี่สมัยก่อนได้อีกแล้ว หลักๆ เลยก็คือพวกฉากผีหลอกมักทำว่าแทบจะก็อปปี้เดียวกันอย่างมุกคลานสี่ขา คอหักวิ่งได้อะไรแบบนี้  ซึ่งมันมาจากเดอะริงแล้วฮิตฝรั่งก็หยิบไปใช้ด้วยจนกลายเป็นท่าผีหลอกเบสิคที่จำเจไปแล้ว และเรื่องนี้เองก็ยังวนเวียนทำซ้ำไอ้ฉากผีหลอกแบบนี้ไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย

ในช่วงครึ่งแรกผีเด็กที่ในเรื่องเรียกว่า “คนแดง” มาในแนวสแลชเชอร์ไล่ฆ่าโหดๆ ผสมกับท่าผีคลานแบบที่ว่า ก็ดูเป็นการเปิดเรื่องที่เหมือนจะน่ากลัวดีในตอนแรก แต่พอสักพักตัวเรื่องใช้มุกแบบนี้ซ้ำๆ โดยเฉพาะแนวเรื่องแบบวนลูป ผีไล่ฆ่าเด็กตายตื่นเช้ามากลางดึกวนกลับมาโดนฆ่าใหม่ ความน่ากลัวที่ว่าเลยกลายเป็นความน่าเบื่อจำเจ ยิ่งผสมกับการกระทำโง่ๆ ของตัวละครบวกกับโอเวอร์แอ็กติ้งของญี่ปุ่นด้วยนี่เรียกว่าหมดเลยกับความน่ากลัวที่ควรเป็นจุดขายของเรื่องนี้แท้ๆ

ด้วยความที่เรื่องวนลูปมีผีตัวเดียวคนดูน่าจะเบื่อและเนื้อเรื่องก็น่าจะไม่ไปไหน ทำให้ช่วงหลังตัวเรื่องพยายามทำตัวผีให้อัพเกรดขึ้นมีความเป็นสัตว์ประหลาดเพื่อจะได้มีฉากหลอกฉากฆ่าใหม่ๆ  แต่มันกลับให้ผลตรงกันข้ามกลายเป็นผีสัตว์ประหลาดที่ดูแล้วแอบตลกและดูทุนต่ำแบบเห็นได้ชัดในตอนหลัง

สิ่งที่ตัวเรื่องพยายามใส่ลงไปให้ดูแปลกใหม่เพิ่มขึ้นคือการเป็นหนังรักวัยรุ่นเบาๆ ผสมมิตรภาพ Coming of age นิดๆ กับการที่ให้ทั้ง 6 คนเป็นคนเหงาโดดเดี่ยว แล้วต้องมาติดลูปสยองขวัญทุกคืนจนกลายเป็นเพื่อนซี้กันในลูป กับความรักที่เริ่มเบ่งบานงอกเงยขึ้นมา ซึ่งไอเดียการตัดแนวสยองขวัญด้วส่วนผสมดราม่าวัยรุ่นมันก็ดูดีอยู่หรอก แต่พอทำจริงมันกลับกลายเป็นเหมือนหนังจับฉ่ายที่ไม่รู้ว่าจะเอาส่วนไหนเป็นหลัก เดี๋ยวก็ตัดมาเฮฮาปาจิงโกะ เดี๋ยวก็ตัดกลับไปเลือดสาด ดูแล้วชวนปวดหัวกับอารมณ์ผีเข้าผีออกของตัวละครในเรื่องมาก

แถมพล็อตหลักลูปเวลาคำสาปก็เหมือนใส่มาแบบไม่มีที่มาที่ไปอะไรให้ดีพอ แม้จนกระทั่งไขปริศนาได้ก็ไม่รู้สึกว่าสมเหตุสมผลอะไรตรงไหน ทำไมถึงกลายมาเป็นคำสาปวนเวียน ที่ไม่ใช่มีแค่พวกตัวเอกกลุ่มนี้โดนมา แต่มีกลุ่มอื่นโดนมาก่อนและผ่านมาแล้วก็ยังมีคำสาปวนเวียนแบบไม่มีคำอธิบายอะไรเลย ถ้ามองว่าเป็นหนังคัลท์เอาง่ายก็ได้อยู่ แต่ถ้าลองเทียบกับเดอะริงที่เฉลยแล้วว้าวมากๆ หรือแม้แต่จูออนผีหลอกไปทั่ว ก็ยังมีเหตุผลเนื้อหนังให้จับต้องเข้าใจได้มากกว่านี้

อาสึกะ สาวน้อยนักเรียนมัธยม เธอเป็นเด็กนักเรียนที่ไม่มีใครคบ ไม่มีเพื่อน นั่งคนเดียว กินข้าวคนเดียว แต่แล้ววันหนึ่งอาสึกะก็พบเหตุการณ์ประหลาด เธอได้ยินเสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่า “หาร่างของฉันให้เจอทีนะ” แต่ก็ไม่เห็นตัวเจ้าของเสียงนั้น

ในคืนนั้นหลังจากที่เข้านอน อาสึกะนอนหลับไป แต่ในเวลาเที่ยงคืนเธอกลับพบว่าตัวเองมาอยู่ที่โรงเรียนอย่างน่าประหลาด นอกจากอาสึกะแล้วก็ยังมีตัวเอกอีกคนอย่าง ทาคาฮิโระ และเพื่อนร่วมชั้นเรียนอีก 4 คน คือ โชตะ รูมิโกะ ริเอะ อาสึชิ อยู่ที่นั่นด้วย ทั้งหมดอยู่ในอาการมึนงงว่าพวกเขามาอยู่ที่โรงเรียนได้อย่างไร ยังไม่ทันได้คำตอบ ทั้งหมดก็ถูกไล่ล่าจากสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “คนแดง” และไม่มีใครรอดชีวิต

อาสึกะตื่นขึ้นมาและคิดว่าเหตุการณ์เมื่อคงเป็นเพียงฝันร้าย แต่ดูเหมือนว่าวันนี้ของเธอ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเหมือนเมื่อวานอย่างไม่ผิดเพี้ยน เหมือนกับว่าวันเวลามันได้ย้อนกลับไปเป็นเมื่อวาน และวันพรุ่งนี้ไม่มีจริง ในเวลาเที่ยงคืนของทุกวัน อาสึกะและคนอื่นๆ ต่างต้องมาเจอกันที่โรงเรียนและถูกไล่ล่าจาก “คนแดง” ซ้ำไปซ้ำมา จนกระทั่งพวกเขานั้นรู้แล้วว่าภารกิจสยองที่ต้องทำให้สำเร็จ ก็คือการหาชิ้นส่วนร่างของเด็กผู้หญิงที่ชื่อ ฮารุกะ ที่ถูกฆาตกรรมหั่นศพให้เจอเพื่อให้ทุกอย่างมันจบลง ไม่เช่นนั้นแล้วทั้งหมดก็จะไม่มีวันพรุ่งนี้อีกต่อไป

นอกจากเรื่องราวสยองก็ก่อให้เกิดมิตรภาพ ทุกคนกลายเป็นเพื่อนกัน ฮารุกะที่ไร้ตัวตนก็กลับมามีตัวตนอีกครั้ง แต่หากว่าภารกิจนี้สำเร็จ ความทรงจำทุกอย่างก็จะหายไป จะไม่มีใครจำอะไรได้อีก นี่คือสิ่งที่ฮารุกะกังวล

นอกจาก “คนแดง”แล้ว หนังยังเพิ่มความสยองด้วยการไล่ล่าจากตุ๊กตาเอมิลี่ ที่ถ้าหากใครที่ถูกเอมิลี่สั่งหารและกลืนกิน ก็จะหายไปตลอดกาล สิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องมาทำภารกิจนี้ก็คือ ทุกคนมีความโดดเดี่ยวที่ซ่อนเอาไว้ในใจ เหมือนตุ๊กตาเอมิลี่

-บทภาพยนตร์ Re/Member ตามล่าศพสยองนี้ เนื้อหาอาจจะไม่มีอะไรมาก คือการหนีการไล่ล่าจาก “คนแดง” พร้อมทั้งการตามหาชิ้นส่วนร่างของฮารุกะที่หายไป และยังสอดแทรกเรื่องราวของมิตรภาพเข้าไปแบบที่ว่าอาจจะรู้สึกไม่ค่อยเข้ากันเวลาดูไปสักหน่อย แต่ก็เป็นส่วนเสริมที่ทำให้เรามองเห็นถึงความอ้างว้างของตัวเอกอย่างฮารุกะ ที่กังวลว่าหากทุกอย่างถูกรีเซ็ต เธอก็จะกลับมาเดียวดายอีกครั้ง

-เทคนิคตัดต่อ ในส่วนของสเปเชียลเอฟเฟกต์นั้น ก็ทำออกมาได้ดี โทนของหนังที่เน้นความดำมืดก็สร้างอารมณ์สยองได้จากบรรยากาศที่ไม่รู้ว่าจะเจออะไรรอบข้าง ฉากโดนผีไล่ล่าก็ลุ้นระทึกพอสมควร แต่ถามว่าสยองไหม ก็คงไม่เท่าไหร่ เพราะขณะที่ดูก็พอจะรู้ว่าผีจะออกมาตอนไหน

-ความสมบูรณ์ของการทำหน้าที่ภาพยนตร์ หนังสามารถสื่อเรื่องราวที่ต้องการได้อย่างเป็นลำดับและเข้าใจง่าย ทั้งในส่วนของภารกิจการตามหาชิ้นส่วนร่างกายที่หายไป หรือในส่วนของการเล่าเรื่องมิตรภาพและความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่อง ก็ทำให้รู้สึกสงสารนางเอกอยู่ไม่น้อยที่จะต้องกลับมาเหงาอีกครั้งเมื่อจบภารกิจสยอง

นี่คือหนังผีญี่ปุ่นที่เน้นกะขายฉากโหดผีหลอกวนเวียนซ้ำซาก โดยหวังผลเอาพล็อตวนลูปเวลามาใช้ แต่ผลที่ได้มันน่าเบื่อและกลายเป็นตลกผิดคาดไปแทนครับ ใครที่คาดหวังหนังผีหลอกน่ากลัวๆ นี่หนีไปไกลๆ เลย แต่ถ้าอยากดูของแปลก+ฉากโหดมั่วซั่วก็โอเคเปิดรับชมกันได้เลย เพราะมันมีดีแค่นี้จริงๆ

หากใครที่ชอบซีรีส์แนวสยองขวัญปั่นประสาท เชื่อว่าจะต้องชอบภาพยนตร์เรื่องนี้แน่นอน โดยในตอนเริ่มเรื่อง ตัวหนังจะเล่าด้วยการย้อนให้เราได้เห็นเหตุการณ์ฆาตกรรมในอดีต ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง ก่อนจะตัดเข้ามาในปัจจุบัน ซึ่งเป็นสูตรที่หนังผีหรือหนังสยองขวัญหลายเรื่องนิยมทำ แต่ต้องยอมรับว่า Re/Member ตามล่าศพสยอง ก็สามารถทำออกมาได้อย่างไม่จำเจ และมีเสน่ห์มากทีเดียว

อีกทั้งในเรื่องยังทำให้เราได้เห็น การดำเนินเรื่องราวและปฏิสัมพันธ์ของกลุ่มเด็กนักเรียน ที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนไม่คลุมเครือ ทำให้คนดูรู้สึกเอาใจช่วยตัวละครแต่ละคนด้วยความใจจดใจจ่อ

แถมในหนังเรื่อง Re/Member ตามล่าศพสยอง ยังเน้นการเดินเรื่องที่เร็ว กระชับ แต่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกขัดใจเท่าไหร่นัก ซึ่งถือเป็นงานที่ท้าทายของทั้งทีมงานที่ต้องเล่าออกมาให้สมูท และคนดูที่ต้องตั้งใจดูไม่ให้หลุดโฟกัสหรือสับสน

นอกจากนี้แล้ว หนังยังพยายามใส่ซีนความเป็น Coming of age เข้ามาตัดสลับความดาร์กของหนัง ให้คนดูได้รู้สึกอิ่มเอมใจกับความเป็นวัยรุ่น และชีวิตของเด็กมัธยมปลาย ทำให้รู้สึกรักตัวละครได้ไม่ยาก ก่อนที่หนังจะกระชากเรากลับมาในโหมดสยองขวัญ ที่ทำเอาลุ้นจนแทบลืมจังหวะหายใจอีกรอบ

ถือเป็นผลงานภาพยนตร์ที่มีฉากค่อนข้างน้อย สำหรับ Re/Member ตามล่าศพสยอง เนื่องจากเนื้อเรื่องหลักเกิดขึ้นในโรงเรียน ทำให้ไม่ได้มีฉากที่ดูแปลกหูแปลกตาไปมากนัก แถมเกินครึ่งของหนัง ยังมืดเกือบสนิท เพื่อคุม Mood and Tone ของเรื่องให้ยังมีความดาร์ก และหลอนปั่นประสาทอยู่เรื่อย ๆ

ด้านการตัดต่อ ถือว่ามีการใช้เทคนิคเข้ามาช่วยได้ดีในหลายจุด โดยเฉพาะในการเร่งเส้นเรื่อง เพื่อให้เวลาดำเนินไปเร็วขึ้น ทำให้คนดูไม่รู้สึกง่วงหรือเบื่อในระหว่างที่ดูเลย

มาถึงคิวของหนังสยองขวัญจากญี่ปุ่น ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ความหลอนมาแล้วเมื่อปลายปีก่อน แต่ล่าสุดเพิ่งจะได้ฤกษ์มาฉายในเมืองไทยแบบจอเล็กที่ผวาไม่แพ้กัน นี่คือ “Re/Member ตามล่าศพสยอง” หนังระทึกขวัญปนสยองขวัญแบบสุดโหด ที่จะมาผู้ชมไปไขปริศนาลึกลับของคดีฆาตกรรมหั่นศพ และหาวิธีปลดเงื่อนงำที่ซ่อนอยู่เอาไว้ แม้ว่าจะเป็นหนังที่ชวนหลอน แต่ใด ๆ กลับแทรกความฟีลกู้ดเอาไว้ได้อย่างน่ามหัศจรรย์

นี่คือผลงานการกำกับของ “ไออิชิโระ ฮาซึมิ” ผู้ที่อยู่เบื้องหลังหนังไตรภาค Umizaru เมื่อทศวรรษก่อน รวมทั้งหนังดัง อย่าง Over Drive กับ The Sun Does Not Move ที่สร้างชื่อให้กับเขา นี่คือว่าได้กลับมาวาดลวดลายความเก๋าในฝีมือการสร้างหนังของเขาอีกครั้ง ด้วยการหยิบจับงานสร้างที่มีเฉพาะญี่ปุ่นเท่านั้นที่จะทำได้ถึง เพราะนี่คือการผสมผสานระหว่างความสยองขวัญกับแนวคิดเหนือจินตนาการ สไตล์แฟนตาซีโลกมังงะเบา ๆ ที่เป็นองค์ประกอบความหลอนที่ค่อนข้างลงตัวใช้ได้

Re/Member ดัดแปลงมาจากนิยายออนไลน์ชื่อดังของ Welzard ถือว่านิยายขวัญเขย่าที่ได้รับความนิยมไม่น้อยในช่วงยุคปี 2010s แม้ว่าโครงเรื่องและบทหนังจะไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่สักเท่าไหร่ ทั้งสถานการณ์ในการแก้ไขปัญหาตรงหน้าของตัวละคร และประเด็นการใช้ชีวิตแบบวนลูปซ้ำเดิม เป็นอะไรที่คนดูน่าจะเคยเห็นกันมาจากหนังเรื่องอื่นมาบ้างแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการดีไซน์ฉากสุดหลอน-เลือดสาดในหนังเรื่องนี้ ทำออกมาจัดจ้านและถึงใจถึงอารมณ์ได้โดยแท้ กลายเป็นสิ่งที่ผู้สร้างรู้ดีกว่าผู้ชมต้องการเห็นอะไร รีวิวหนังสอบสวน

ไม่เพียงเท่านั้น Re/Member กลับยังใส่ประเด็น coming-of-age ของชีวิตเด็กวัยรุ่นเข้าไปในหนัง เป็นการคั่นอารมณ์ผวาให้กับผู้ชมเป็นระยะ ๆ และกลายเป็นองค์ประกอบที่ดูจะไม่เข้ากันได้ แต่กลับดูกลมกล่อมได้ดียิ่งขึ้นเมื่อถูกนำมาร้อยเรียงเข้าด้วยกันในเรื่องนี้ ใครจะไปคิดว่ากำลังหนังดูหนังที่เต็มไปด้วยฉากไล่ฆ่าสุดโหด แต่อีกสักแปบเดียวก็ตัดเข้าสู่โหมดวัยรุ่นฟีลกู้ดในเรื่องมิตรภาพและสัมพันธ์โรแมนซ์ได้อย่างน่าพิลึกใจไม่น้อย

หนังได้ทีมนักแสดงที่ถือว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการบันเทิงญี่ปุ่น ณ ตอนนี้มาประชันกันบนจอ นำทีมโดย “คันนะ ฮาชิโมโตะ” กับ “กอร์ดอน มาเอดะ” ที่ถือว่าทั้งคู่ใช้ประสบการณ์ทางการแสดงที่สั่งสมมาหลายปี มาจับมือกันช่วยผนึกกำลังร่ายเสน่ห์ทางการแสดงออกมาในหนังเรื่องนี้ พวกเขาถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐาน และเป็นคู่ที่ช่วยประคับประคองหนังเรื่องนี้เอาไว้ได้อย่างดีตลอดทั้งเรื่องด้วย ต้องยกความดีความชอบให้กับบทอันมีมิติหลากหลายของคาแรกเตอร์ต่าง ๆ ในเรื่องนี้

และยังมีนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น “มาอิกะ ยามาโมโตะ”, ฟูจุ คามิโอะ”, “คาทาโร่ ดาอิโกะ” และ “มายูอุ โยโกะตะ” มาช่วยเป็นแรงผลักดันในการขับเคลื่อนหนังเรื่องนี้ให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ถึงบทของพวกเขาจะไม่ค่อยมีอะไรมากนัก แต่ก็จัดได้ว่าเป็นส่วนประกอบเสริมที่เติมเต็มได้เป็นอย่างดี แม้ว่าหนังมักจะสลับตัดไปมาระหว่างความหลอนผวากับความฟีลกู้ดที่ชวนปรับอารมณ์ของหนังได้เหมือนกับเป็นโรคสองบุคคลิกอะไรแบบนั้น ร

ถือว่าสนุกไม่น้อยสำหรับการอธิบายเหตุการณ์ในเรื่อง ทั้งการวนลูปของเวลาที่ย้อนกลับ เหตุการณ์ที่เชื่อมโยงกันภายใน และตอนจบที่เหมือนยังไม่จบ นักแสดงหลักในเรื่องคือ คันนะ ฮาชิโมโตะ นั้น แม้บทจะมีคาแรกเตอร์เงียบๆ ไม่มั่นใจในตัวเอง แต่ก็ฉายความน่ารักออกมาได้อยู่ดี ส่วน กอร์ดอน มาเอดะ พระเอกของเรื่องก็ดูเท่ไม่หยอก คอยปกป้องนางเอกตลอดเวลา และตอนจบ สิ่งที่เขาทำต่อนางเอกก็ทำให้คนดูมีรอยยิ้มได้ รวมรีวิวหนัง

แต่สิ่งที่น่าเสียดายเล็กๆสำหรับหนังเรื่องนี้

-การวางปมของแต่ละตัวละครยังไม่ลึกมากพอ อาจจะเพราะเป็นภาพยนตร์แบบตอนเดียวจบ ก็เลยไม่สามารถใส่รายละเอียดของแต่ละตัวละครได้มากพอ

-การตายของตัวละครนั้นมันง่ายไปหน่อย และเดาได้ ชนิดที่ว่าฉากนี้ต้องตายแน่ๆ และก็ตายจริงๆ ไม่กะให้ลุ้นหน่อยเลย

-ผีไม่ค่อยน่ากลัว หลังๆเริ่มเหมือนผีสามบาท ตุ๊กตาเสียกบาล มันดูย้อนแย้งนิดนึง ผีตุ๊กตาเอมิลี่ที่มีพละกำลังทำลายพื้นคอนกรีตของอาคารได้ กลับถูกล่ามโซ่ในตอนท้ายๆง่ายดาย อะไรกันนี่ และก็ตายยากตายเย็นแต่บทจะตายก็ตายเลย

-ผี “คนแดง” แรกๆก็น่ากลัวอยู่ แต่แอบขี้โกงหน่อยๆ ตามหาคนที่หลบซ่อนเก่งเกินไปนะ ไม่ต้องค้นก็หาเจอทันทีโผล่มาฆ่าเลย ขนาดแอบในตู้แล้ว

ท้ายที่สุดแล้ว Re/Member อาจยังไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบ และเต็มไปด้วยสูตรสำเร็จในการเล่าเรื่องแต่ก็สร้างรสชาติให้คนดูอิ่มเอมใจได้ตลอดทั้งเรื่อง นี่คือหนังสยองขวัญที่เหนือกว่าหนังสยองขวัญทั่วๆ ไปและสร้างผลงานได้มากกว่านั้น เพราะหนังใส่โทนอารมณ์ที่ไม่ลงตัว แต่กลับกัน Lock กับ Time กลับทำงานร่วมกันได้อย่างน่าทึ่ง ท่ามกลางความสยองขวัญ เรื่องราวทั้งหมดยังคงมีแสงแห่งความหวังและอารมณ์ที่ดีคอยสนับสนุน มันแปลก … แต่ก็ใช้งานได้เช่นกัน รีวิวหนังน่าดู

สรุปโดยรวมถือว่าสนุก ในตอนจบนั้นหนังยังทิ้งปริศนาบางอย่างเอาไว้ชนิดที่ว่าทำเอาอึ้งอยู่เหมือนกัน ตอนที่ดูฉากสุดท้ายหลัง End Credit ทีแรกก็ไม่เข้าใจเพราะเป็นภาษาญี่ปุ่นไม่มีคำแปลภาษาไทยจึงอ่านไม่ออก เลยเกิดความค้างคาใจก็เลยต้องใช้แอปแปลภาษาเอาเอง พอแปลออกเท่านั้นเองจึงเกิดความอึ้งทันทีและคาดเดาไม่ออกว่าหนังต้องการทิ้งปมหรือต้องการทิ้งข้อความเพื่อสื่อสารอะไรเอาไว้ แต่ที่แน่ๆมันทำให้ใจหล่นวูบแบบ เฮ้ย! ไม่เอาแบบนี้สิ หรือไม่แน่ว่าหนังเรื่องนี้จะมีภาคต่อ ก็ต้องรอติดตามกันต่อไป