รีวิว WEDNESDAY ได้ใจแฟนเก่าและดึงดูดหน้าใหม่ให้มารู้จักหลงรักอดัมแฟมิลี่ได้อย่างแน่นอน
รีวิว WEDNESDAY ซีรีส์วัยรุ่น Coming of Age ผสมแนวสืบสวนลึกลับแฟนตาซีที่หยิบเอาตัวละครจากอดัมแฟมิลี่มาเจาะลึก ขยายโลกพิลึกนอกกรอบสังคมได้อย่างสนุกแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร มีความเป็นตัวเองสูงมาก ตัวเรื่องเต็มไปด้วยแนวคิดเรื่องราวตัวละครหัวขบถขวางโลกแบบร้ายๆ แต่ก็เหตุผล มีเสน่ห์เฉพาะยากที่จะไม่หลงรักความแปลกพิลึกเหล่านี้ได้
ทั้งยังผนวกเอาเรื่องราวสืบสวนแฟนตาซี ที่ทำออกมาลึกลับน่าติดตามเดาคนร้ายได้ยาก CG ดีงามเป็นสไตล์รูปแบบเฉพาะตัว ซึ่งที่เป็นแบบนี้ได้ก็เพราะการได้ผู้กำกับทิม เบอร์ตันมาสร้างและคุมงานทำเองทั้งหมด เรียกว่าได้ใจทั้งแฟนภาพยนต์เก่าและดึงดูดแฟนหน้าใหม่ให้มารู้จักหลงรักความเป็นอดัมแฟมิลี่ได้อย่างแน่นอน ดูหนังออนไลน์
เว้นส์เดย์ แอดดัมส์ ซีรีส์ Netflix ที่สร้างจากจินตนาการของทิม เบอร์ตัน นำแสดงโดยเจนนา ออร์เทก้าในบทเวนส์เดย์ ร่วมด้วยแคเธอรีน ซีต้า โจนส์, หลุยส์ กัซแมน, เกว็นโดลีน คริสตี้, คริสตินา ริชชี่และนักแสดงอีกคับคั่ง บอกเล่าเรื่องราวของเว้นส์เดย์ แอดดัมส์ ลูกสาวคนโตของตระกูลนี้ผียังหลบ ในช่วงที่เธอกำลังโตเป็นสาววัยรุ่นและถูกย้ายไปเรียนที่ เนเวอร์มอร์ อะคาเดมี โรงเรียนที่รวมพวกนอกกรอบแบบเธอไว้เต็มโรงเรียน
ซีรีส์เลือกเล่าแนวการเติบโตของเว้นส์เดย์ในแบบ Coming of Age ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยความเป็นคนนอกกรอบกฎเกณฑ์ด้วยความแปลกของตัวเองซึ่งไม่เข้าพวกกับใครซึ่งเป็นการขยายต้นฉบับอดัมแฟมิลี่ได้เจาะลึกน่าสนใจมาก โดยที่คุณไม่ต้องเคยดูเรื่องราวของพวกเขามาก่อนก็ได้ เพราะซีรีส์เรื่องนี้ก็เหมือนสตาร์ทเริ่มต้นใหม่กับชีวิตของตัวเอกเว้นส์เดย์ที่เด่นสุดแล้วของตระกูลนี้
และถูกนำมาขยายต่อเติมให้เราได้เห็นชีวิตและมุมมองทุกอย่างของเธอในแบบที่โตขึ้นกว่าสมัยก่อน โดยมีเรื่องลึกลับให้เธอสืบสวนเป็นแกนหลักของเรื่อง ผสมกับเรื่องราวชีวิตวัยรุ่นที่ดูคล้ายๆ สูตรสำเร็จแบบเรื่องอื่นแต่เว้นส์เดย์ เป็นตัวละครที่ทำให้เรื่องนี้แหวกแนวกว่าเรื่องไหนๆ ที่เคยมีมา ด้วยพฤติกรรมสุดพิลึกกึกกือ
รวมถึงความเป็นตัวตนไม่แคร์ความรู้สึกใคร แต่กลับมีเสน่ห์แปลกประหลาดดึงดูดให้ใครๆ ก็ต้องมาสนใจเธอตัวเรื่องนี้ภายใต้เงินทุนของ Netflix ดูเหมือนว่าจะสามารถฉีกกรอบหลุดจากสูตรภาคบังคับเดิมๆ ของเน็ตฟลิกซ์ได้ ด้วยการที่เรื่องนี้ไม่ได้เล่นเรื่องความเท่าเทียม LGTB ความรักแบบเพศเดียวกันเลยแม้แต่น้อย
ซึ่งคงเพราะผู้กำกับทิมเบอร์ตันก็คงไม่ยอมที่จะให้ประเด็นหลักของเรื่องเขวไปจนมีปัญหา WOKE แบบเรื่องอื่นๆซึ่งก็ทำให้เรื่องนี้มีบทที่จับจุดเล่าเรื่องตรงประเด็นทุกตอนเกี่ยวกับคนนอกกรอบ แม้ในเรื่องนี้จะใช้ตัวละครที่มีพลังพิเศษแบบต่างๆ มารวมกันในโรงเรียน แต่ความจริงมันก็คือจินตนาการที่มาแทนที่ช่วงเวลาวัยรุ่นที่หลายคนก็คงรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอกรอบ มีความแปลก ไม่เข้าพวกใคร หาเพื่อนสนิทได้ยาก
ซึ่งผู้กำกับทิม เบอร์ตันก็ถนัดทำเรื่องราวแบบนี้มาตั้งแต่เอ็ดเวิร์ดมือกรรไกร หรือแม้แต่แบทแมนก็ใช่ แต่เรื่องนี้คือสาวน้อยที่คนนอกมักมองว่าเธอคือตัวขวางโลก ซึ่งเธอก็แค่เป็นตัวของตัวเองเท่านั้น แม้เธอจะมีความคิดประหลาดๆ ที่พาลก่อเรื่องเดือดร้อนอยู่เรื่อย แต่ก็ไม่ใช่ตัวละครน่ารำคาญ
แต่ทุกการกระทำของเธอมีเหตุมีผลในแบบของตัวเองรองรับเสมอ ซึ่งผู้ชมไม่มีทางจะเกลียดเธอได้ลง แถมยังรู้สึกแอบลุ้นช่วยให้เธอทำสิ่งต่างๆ สำเร็จในแบบฉบับของตัวเองด้วยซ้ำ ซึ่งนักแสดง เจนนา ออร์เทก้า เองก็สวมบทบาทนี้ได้อย่างไม่มีที่ติ มีความเป็นอดัมแฟมิลี่ยุคเก่าผสมยุคใหม่ได้อย่างลงตัวแบบที่แฟนๆ ภาพยนต์เก่าเรื่องนี้ก็ต้องชอบ
และยังดึงดูดแฟนหน้าใหม่ให้มารู้จักความเป็นอดัมแฟมิลี่ จากตัวละครนี้ได้เป็นอย่างดี และน่าจะถูกใจวัยรุ่น Gen ใหม่ด้วยบุคลิกหัวขบถแบบมีสีสันท้าทายขนบธรรมเนียมเก่าๆ แต่เป็นไปในแบบตั้งคำถามด้วยมุมมองที่ต่าง Gen แบบมีเหตุผลมากด้วย
ในเรื่องไม่ได้เด่นแค่เว้นส์เดย์ แต่ยังมีตัวละครอื่นๆ ที่เด่นไม่แพ้กันทั้งจากพ่อแม่ของเธอที่มีบทอยู่พอประมาณในช่วงครึ่งแรกที่เว้นส์เดย์ ต้องสืบสวนเรื่องอดีตของพ่อแม่ที่เคยเรียนอยู่ที่นี่ และมีความเกี่ยวพันกับคดีฆาตกรรมที่อาจจะโยงมาถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันได้ ซึ่งบทพ่อแม่ก็ยังคงถอดแบบมาจากสมัยภาพยนตร์เลย
คือเป็นคู่รักที่คลั่งไคล้กันอย่างหนัก ถอดจูบแบบไม่แคร์ใครตลอดเวลา รวมถึงแนวคิดวิธีเลี้ยงลูกที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งมีส่วนทำให้เว้นส์เดย์กลายมาเป็นเด็กแบบนี้ แต่เธอก็ต่อต้านพ่อแม่ในแบบของตัวเอง ไม่ยอมให้ถูกบงการชี้นำอะไรอีกต่อไป เหมือนซีรีส์วัยรุ่นหัวขบถพ่อแม่
แต่ไม่ปกติเพราะความเป็นเว้นส์เดย์ ซึ่งความจิกกัดพ่อแม่ในเรื่องก็ทั้งสร้างสีสันและยังชวนให้คิดต่างได่เป็นอย่างดีอีนิด เป็นอีกตัวละครที่ทำให้เรื่องดูมีสีสันสดใสตัดกับเว้นส์เดย์ได้เป็นอย่าง เธอเป็นรูมเมตสาวน้อยหมาป่าที่มีปมแปลงร่างไม่ได้ เป็นเหมือนตัวแทนของสาววัยรุ่นปกติที่สนใจสิ่งเร้าต่างๆ ทั่วไป
และพยายามเชื่อมสัมพันธ์เปลี่ยนเว้นส์เดย์ตลอดเรื่อง ด้วยความน่ารักสดใสของนักแสดงหน้าใหม่อย่าง Emma Myers กับบทความพยายามเป็นเพื่อนกับเว้นส์เดย์ให้ได้ ทำให้ตัวเรื่องดำเนินแบบน่ารักชวนลุ้นเล็กๆ ว่าเมื่อไหร่เว้นส์เดย์จะเปลี่ยนไปใจอ่อน โดยที่ยังคงความเป็นเว้นส์เดย์แบบเดิมไว้ด้วยซึ่งตัวเรื่องสามารถรักษาสมดุลย์ในจุดนี้ไว้ได้เป็นอย่างดี เป็นเรื่องแนวมิตรภาพของเพื่อนที่ทุกอย่างแตกต่างกัน แต่ก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้
แม้ตัวละครเว้นส์เดย์จะเป็นแนวไม่แคร์หรือทำตามสังคม แต่ในเรื่องก็ยังสอดแทรกแนวความรักลงไปได้แบบกำลังดี แถมเป็นแนวรักสามเส้า หนุ่มหล่อสองคนมารักเธอ แต่เธอไมไ่ด้คิดจะสนใจใคร ในขณะทีทั้งคู่ก็พยายามชนะใจเธอให้ได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอเป็นคนไม่สนใจเรื่องความรักไม่แคร์ความรู้สึกของคนที่ทมาจีบด้วย
แต่ตัวเรื่องก็ค่อยๆ ทำให้เราได้เห็นและรู้สึกว่าเว้นส์เดย์ก็มีเปลี่ยนไปทีละนิดๆ แบบน้อยมากๆ แต่ก็เผยออกมาให้เห็นได้ ซึ่งนักแสดง เจนนา ออร์เทก้า เองก็เล่นแบบแสดงออกน้อยๆ แต่ก็รู้สึกถึงจุดนี้ได้เป็นอย่างดี เอาว่าผู้ชมที่ชอบแนวรักเบาๆ อะไรแบบนี้ก็ต้องถูกใจแน่ เพราะความไม่เหมือนใครของตัวละครที่ไม่แคร์ผู้ชาย แต่กลับกลายเป็นมีเสน่ห์ดึงดูดสูงมากแทน
รีวิว เรื่องย่อ Wednesday
เรื่องราวของ เวนส์เดย์ เด็กสาวที่เป็นเหมือนขบถสังคมในสายตาของใครหลายคน แต่กลับเฉิดฉายได้อย่างโดดเดี่ยว แต่แล้วพ่อแม่ของเธอก็ได้ส่งเธอเข้าสู่โรงเรียนเนเวอร์มอร์ แสนแปลกประหลาด โรงเรียนที่จะนำพา เวนส์เดย์ไปพบพากับเรื่องราวเหตุการณ์ฆาตกรรมทั้งในเมือง โรงเรียนที่เธอจะต้องไขปริศนาที่พ่อแม่ของเธอเข้าไปพัวพันเมื่อ 25 ปีก่อน
จะเป็นเรื่องราวเหนือจิตนาการ ผสานความตามไสตล์ออริจินอลของครอบครัวอดัมส์ เรื่องราวจะพาเราออกจากคฤหาสอดัมส์ เมื่อเวนส์เดนย์ต้องเข้าไปเรียนต่อที่ ‘Nevermore Academy’ โรงเรียนประจำสำหรับเด็กแปลก (กว่าที่บ้าน)
ที่โรงเรียน Nevermore Academy แห่งนี้ เวนส์เดย์ ต้องเจอกับสังคมใหม่ เพื่อนใหม่ (ที่ไม่ค่อยน่าคบเท่าไหร่ ?) ที่แห่งนี้เอง เธอต้องเผชิญหน้ากับปริศนา คดีฆาตรกรรม สัตว์ประหลาด ที่แอบซุกซ้อนอยู่ภายในโรงเรียน และเธอจะไม่หยุด จนกว่าจะพบความจริงของเรื่องราวทั้งหมดนี้
ด้วยการส่งเธอมาเรียนที่โรงเรียนประจำสำหรับคนนอกคอก แหล่งรวมเด็กประหลาดอย่าง เนเวอร์มอร์ อะคาเดมี (Nevermore Academy) จนทำให้เธอต้องพบกับเรื่องราวมากมาย ทั้งการลอบทำร้ายจากบุคคลลึกลับ ปริศนาสมาคมลับโบราณที่แฝงตัวในโรงเรียน
ปีศาจร้ายในป่าที่ออกสังหารผู้คนจนสุมไฟลงกองน้ำมันแห่งความชิงชังแต่ดั้งเดิมระหว่างชาวเมืองที่เป็นคนธรรมดากับคนนอกคอกที่มีพลังพิเศษในโรงเรียน จนกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่ทำให้ Wednesday ต้องทำหน้าที่ฮีโร่ผสมนักสืบไปไม่รู้ตัว
ความรู้สึกไม่อยากเสียใจอย่างตอนที่สูญเสียสัตว์เลี้ยงตัวแรกในวัยเด็กหล่อหลอมให้ Wednesday กลายเป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียว ไม่อยากสนิทสนมหรือผูกมัดกับใคร จนกลายเป็นกำแพงที่สูงและแข็งแรง นอกจากนี้ยังมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นพวกแปลกประหลาดนอกคอกในหมู่คนประหลาดไปอีก
ยิ่งทำให้ Wednesday กลายเป็นคนเย็นชาทั้งภายนอกและภายใน จนกระทั่งเธอได้เจอคนที่เชื่อมั่นในตัวเธอ และต้องการจะเข้ามาเป็นส่วนร่วมความแปลกไปพร้อม ๆ กับเธอ น้ำแข็งในใจของ Wednesday จะละลายออกมาได้สักนิดหรือไม่ สาวน้อยหน้ามุ่ยที่ไม่ชอบถูกกอด จะยอมกอดคนอื่นได้บ้างหรือยัง ต้องลองไปติดตามกันได้ที่ Netflix นะคะ
ในส่วนของความเป็นแฟนตาซีลึกลับก็ยังทำหน้าที่เป็นตัวหลักในการดำเนินเรื่องได้เป็นอย่างดี ด้วยบทแนวสืบสวนเรื่องลึกลับที่มีเว้นส์เดย์เป็นนักเรียนนักสืบที่เชื่อมโยงหาหลักฐานต่างๆ มาปะติดปะต่อสร้างทฤษฎีของตัวเอง และยังมีพลังนิมิตรเข้ามาช่วยทำให้เห็นทั้งอดีตและอนาคตบางส่วน
รวมถึงมีมือขาดที่เป็นเหมือนผู้ช่วยหรือสัตว์เลี้ยงประจำตระกูลตามมาช่วยในการสืบสวนด้วย บทในส่วนนี้ดึงเอาเรื่องราวลับของตระกูลมาเกี่ยวพัน ซึ่งทำให้ผู้ชมได้เห็นที่มาที่ไปของต้นตระกูลอดัมครั้งแรกและตัวเรื่องก็ยังปกปิดตัวร้ายของเรื่องไว้ได้อย่างมิดชิด แบบเดายากมาก และน่าจะเดาผิดกันไปหลายครั้งด้วย และก็ดูใจร้ายพอดูกับการเฉลยว่าเป็นใคร รีวิวหนังสอบสวน
งาน CG ในเรื่องทำออกมาดีมากทั้งฉากต่างๆ กับสัตว์ประหลาดในเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์แบบของทิม เบอร์ตันเองจริงๆ ไม่ต้องมองว่าเหมือนจริง เพราะทิมก็ไม่เคยทำให้เหมือนหรือสมจริงอยู่แล้ว แต่ก็มีความหลอนน่ากลัวพอประมาณ แบบเด็กดูแล้วอาจจะมีกรี๊ดได้เหมือนกัน (เรื่องนี้เรต 13+ ต้องมีผู้ชมให้คำชี้แนะระหว่างดู)
ตัวเรื่องซีซั่นนี้จบแบบปิดทุกอย่างได้สมบูรณ์หมดในตัว แต่ก็ทิ้งเปิดเรื่องราวใหม่ไว้ รวมถึงมีการขยายโลกในเรื่องไปยังที่อื่นๆ รวมถึงตัวละครสมทบหลายตัวที่ยังมีเรื่องราวเปิดทิ้งไว้นิดๆให้ได้เล่าต่อไปอย่างคู่แข่งของนางเอกที่เป็นไซเรนค่อนข้างเด่น แต่เรื่องเลือกเล่าแบบแง้มชีวิตของเธอมานิดเดียวเท่านั้น ซึ่งน่าสนใจติดตามต่อทุกอย่าง เป็นซีรีส์ที่ทิม เบอร์ตันคุมงานเองและน่าจะมีไอเดียอีกมากที่เขายังคงเก็บไว้ทำต่อได้อีกยาวแน่นอน
Wednesday เวอร์ชั่นคนแสดง
The Addams Family ในยุคแรก ๆ เป็นเพียงการ์ตูนแก๊กสั้น ๆ ที่ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ของนิวยอร์ก เขียนโดย ชาร์ลส์ แอดดัมส์ (Charles ‘Chas’ Addams) เป็นเรื่องราวตำนานของครอบครัวสุดพิลึกและดาร์กจนเกินจะบรรยาย
ต่อมาได้มีการทำเป็นซีรีส์ฉายในโทรทัศน์ สร้างสรรค์โดย ABC และพัฒนาบทโดย เดวิด เลวีย์ (David Levy) ออกฉายทั้งหมด 64 ตอน ใน 2 ซีซั่น โดยในฉบับซีรีส์ภาคนี้ได้ ลิซ่า ลอร์ลิง (Lisa Loring) มารับบท Wednesday ในเวอร์ชั่นคนแสดงเป็นครั้งแรก
ต่อมาครอบครัวสุดประหลาดเวอร์ชั่นการ์ตูนก็ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งในหนังเรื่อง Scooby-Doo Meets the Addams Family และได้กระแสตอบรับที่เป็นบวก ทำให้มีการสร้างแอนิเมชั่นซีรีส์เป็นของตัวเองครั้งแรก และได้นักแสดงจากเวอร์ชั่นแรกมาให้เสียงตัวละครของตัวเอง ทำให้โด่งดังมากในสมัยนั้น แถมยังออกมาถึง 2 ซีซั่นด้วย
กระทั่งปี 1991 เวอร์ชั่นที่ดีและประสบความสำเร็จที่สุดของ The Addams Family ก็มาถึง เพราะหนังเรื่องนี้กวาดรายได้ไปอย่างถล่มทลาย เรียกเสียงฮือฮาในวงการคนดูหนังอย่างมากทีเดียว โดยเป็นผลงานการกำกับของ แบร์รี ซันเนนเฟลด์ (Barry Sonnenfeld) และได้ คริสตินา ริกชี (Christina Ricci) มารับบท Wednesday สาวน้อยหน้ามุ่ย ที่กลายเป็นไอคอนของครอบครัวสุดแปลกไปเลย ก่อนจะมีภาคต่อ Addams Family Values
ต่อมาในปี 2010 Illumination Entertainment และ Universal Pictures ได้ลิขสิทธิ์ของ The Addams Family อย่างถูกต้อง จึงมีแผนลงทุนลงขันกันสร้างแอนิเมชั่นซึ่งพัฒนามาจากตัวละครต้นฉบับดั้งเดิมออกมา ซึ่งแนวคิดนี้ได้รับการแก้ไข ปรับปรุง พัฒนามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งในปี 2017 ได้เปลี่ยนสตูดิโอจาก Illumination Entertainment มาเป็น Cinesite Studios แทน
และได้นักแสดงชื่อดังมากมายมาร่วมให้เสียง หนึ่งในนั้นคือ โคลอี เกรซ มอเรตซ์ (Chloë Grace Moretz) เป็นผู้พากย์เสียง Wednesday โดยแอนิแมชั่นเรื่องนี้ออกฉายในช่วงเทศกาลฮาโลวีนของปี 2019-2021 และแน่นอนว่าได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น
ล่าสุดกับ Wednesday ซีรีส์แยกของแฟรนส์ไชส์ The Addams Family ผลงานการกำกับของ ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) ที่ได้ เจนน่า ออร์เทก้า (Jenna Ortega) นักแสดงที่มีผลงานทางช่องดิสนีย์มาตั้งแต่เด็ก และมีบทรองทาง Netflix ในช่วงหลัง มารับบทเป็นสาวน้อยหน้ามุ่ย
ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตัวละครมาตั้งแต่ดั้งเดิม แม้หลายคนรวมถึงตัวเธอเองจะกังวลว่าเธอมีอายุ 20 ปีแล้ว จะมาสวมบทบาทเป็นเด็กนักเรียนได้หรือไม่แต่พอได้ดูซีรีส์จริงก็ต้องยอมรับเลยว่านี่แหละ Wednesday ตัวจริงที่สมบูรณ์แบบสุด ๆ ด้วยบุคลิกที่นิ่ง ๆ สีหน้าหลอน ๆ และคำพูดขวานผ่าซาก แต่ก็แฝงไปด้วยความน่ารักและความอ่อนโยนที่อยู่ข้างใน
ไม่เพียงเท่านั้น เพราะในซีรีส์ Wednesday ยังได้ คริสตินา ริกชี (Christina Ricci) อดีตเด็กน้อย Wednesday ที่ผู้คนจดจำได้มากที่สุดในโลกจนกลายเป็นไอคอนของยุค 90 มารับบท คุณครูธอร์นฮิลล์ คุณครูแม่บ้านประจำหอ อีกด้วย เรียกว่าเป็นการกลับมาเจอกันของ Wednesday ทั้ง 2 ยุคในเรื่องเดียวเลย
อุปนิสัยของ Wednesday
นซีรีส์ดั้งเดิมของ The Addams Family ที่ฉายในช่วงแรก ๆ Wednesday จะเป็นพี่สาวนิ่ง ๆ เรียบร้อย และอ่อนหวาน จะคอยขัดขวางความแปลกประหลาดของพ่อแม่และน้องชาย แต่ก็ยังคงมีความพิลึกพิลั่นเล็กน้อยด้วยการเลี้ยงแมงมุม สัตว์เลี้ยงที่เธอโปรดปราน
และเล่นกับ Marie Antoinette ตุ๊กตาตัวโปรดที่คอขาดไปเพราะโดนบั่นด้วยกิโยตีนหลังจากการเล่นของน้องชายตัวแสบ นอกจากนี้ยามว่าง Wednesday มักจะเขียนบทกวีที่อุทิศให้กับแมงมุมที่ล่วงลับ อีกทั้ง Wednesday ที่แม้จะเป็นเพียงเด็กสาวตัวเล็ก ๆ แต่ก็มีพละกำลังเกินตัว เพราะเธอสามารถเล่นยูโดกับ Gomez ผู้เป็นพ่อ และจับเขาทุ่มได้ง่าย ๆ เลย
แต่ทว่าในภาพยนตร์ The Addams Family ที่ฉายในปี 1991 Wednesday ที่ได้ Christina Ricci มารับบทนี้ กลับถ่ายทอดความมืดมน ซาดิสต์ และบุคลิกด้านมืดออกมา จนทำให้ผู้ชมทั้งหลายติดภาพจำนี้ของ Wednesday ไปโดยปริยาย สาวน้อยสุดสยองในปี 1991 มีความสนใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
และการสรรเสริญเชิดชูบรรพบุรุษที่ถูกตราหน้าว่าเป็นแม่มดในสมัยโบราณ 100 กว่าปีก่อน นอกจากนี้ความมืดมนของ Wednesday ยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีกใน Addams Family Values ที่เธอพยายามฝังแมวเป็น ๆ จุดไฟเผาแคมป์ รวมถึงสร้างความหวาดกลัวให้กับเพื่อน ๆ จนเกือบตาย
รีวิว เวนส์เดย์ เธอน่ากลัวกว่าผี
Wednesday Addams พยายามหนีจากโรงเรียนแต่ไม่สำเร็จ แถมยังต้องเข้าบำบัดอาการป่วยทางจิต ไม่ทันไรก็เกิดเหตุฆาตกรรมสยอง สืบสาวราวเรื่องมาเกี่ยวพันกับพ่อแม่ที่เคยเป็นศิษย์เก่ายังมีบรรพบุรุษตระกูล “แอดดัมส์” เป็นพวกพิลกริมที่ลงเรือ Mayflower มาอยู่โลกใหม่ ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่เมืองเจริโค เมื่อปี 1625 ทั้งเรื่องเต็มไปด้วยความลึกลับ
ซีรีส์เบสออน The Addams Family หนังทำเงินมีสองภาค และอะนิเมชั่นอีกหนึ่งภาคปี 2019 ก่อนหน้านั้นเป็นหนังทีวีปี 1964-1966 เป็นละครบอร์ดเวย์มิวสิคัลก็มี ทั้งหมดสร้างจากเรื่องของนักเขียนการ์ตูน Charles Addams ตีพิมพ์ลงหนังสือ The New Yorker เมื่อปี 1938
เรื่องของครอบครัว “แอดดัมส์” ดูเพี้ยน ๆ แปลกประหลาด รูปลักษณ์ตัวละคร การพูดจา ความเป็นอยู่ ดูเหมือนผีแต่เป็นคนธรรมดาที่ไม่เหมือนคนในสังคมทั่วไป ตอนเป็นหนังสนุก โปรดักชั่นดีมาก นักแสดงก็ดี ดาราเด็ก (สมัยโน้น) คริสติน่า ริชชี่ แจ้งเกิดเป็น Wednesday สาวน้อยหน้าเฉย ตานิ่ง ดังจนต้องสร้างภาคต่อ
พอเป็นซีรีส์ คนสร้างบอกว่าไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นหนัง “รีบูท” ตระกูลแอดดัมส์ จึงขยายเรื่องใหม่ให้ Wednesday ไปอยู่โรงเรียนประจำที่มีพวก “นอกกรอบ” ลูกหลานมนุษย์หมาป่า แวมไพร์ มีเวทมนตร์ มีสายดาร์ก อยู่ไปไม่นานเจอปีศาจออกฆ่าผู้คน
ไม่มีใครยอมรับ Wednesday เธอเหมือนตัวประหลาด แต่น้องก็ไม่แคร์ อยู่คนเดียวได้ ชอบด้วย สู้เตะต่อยฟันดาบได้ ฉลาดเลิศ มีคนแกล้งน้องชายเธอก็เอาปลาปิรันย่าไปปล่อยลงสระว่ายน้ำ งานอดิเรกเขียนนิยายแนวสยองใช้พิมพ์ดีดรุ่นโบราณ ไม่ใช้โน้ตบุ๊ค ไม่มีมือถือ เธอบอกว่าพ่อแม่เลี้ยงมาโหด ใครหน้าไหนมากลั่นแกล้งก็ไม่กลัว
Wednesday ไม่ได้เกิดวันพุธ เธอเกิดวันศุกร์ที่ 13 ฉลาดล้ำ ทันคน ฟันดาบ ต่อสู้ เล่นเชลโลได้ มีแมงป่องเป็นสัตว์เลี้ยง บทพูดสนุก เหน็บแนมแสบทรวง เช่น เล่นโซเชียลคือตกไปในหลุมดำ, คนตายขึ้นชื่อว่าไม่โทรกลับ, ความลับก็เหมือนซอมบี้ มันไม่เคยตาย, คนวัยรุ่นเป็นนิสัยชอบพูดจาทำร้ายจิตใจคน, ดื่มชาดีกว่าไม่ต้องไปจ่ายค่ากาแฟฮิปสเตอร์แพง ๆ ฯลฯ
เมื่อคดีฆาตกรรมเกิดถี่ขึ้น แถมมีคดีเก่าของพ่อข้อหาฆ่าคนตาย Wednesday มีพลังพิเศษ วูบทีหนึ่งก็มองเห็นอดีต บางครั้งเห็นอนาคต เธอจึงต้องไขปริศนาฆาตกรรม เจอสัตว์ประหลาดอีก บวกกับเรื่องลึกลับของโรงเรียนเนเวอร์มอร์เข้าไปด้วย สนุกเลย เดินเรื่องเร็ว แทรกเรื่องราวสมัยอดีตเป็นระยะ ๆ ให้คนดูค่อย ๆ รู้พร้อมไปกับตัวละคร
ความรู้สึกหลังดูจบ
ซีรีส์เรื่องนี้ ทางดูเพลินต้องขอให้ 3 ผ่าน ถือเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ ที่บอกว่าแนะนำให้ดูอย่างแน่นอน ยิ่งหากใครเป็นแฟนของการ์ตูนซีรีส์เรื่อง The Addams Family ตระกูลนี้ผียังหลบ กับเสียงดี๊ดนิ้วที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ใคร ๆ ที่รู้จักตระกูลอดัมส์ อยู่แล้ว ต้องขอบอกเลยว่า ซีรีส์เรื่องนี้ถือเป็นอีก Spin off ที่ทำออกมาได้ดีไม่น้อยไปกว่าซีรี๋ย์หลัก
อีกหนึ่งที่ต้องชื่นชมนั้นก็คือการเลือกนักแสดงที่มารับบทของหนูเวนส์เดย์ โดยได้ เจนน่า ออร์เทก้า (Jenna Ortega) มารับบทนี้ และต้องขอบอกดัง ๆ เลยว่า เคมีของเธอเข้ากับคาแรคเตอร์ของเวนส์เดย์ได้ดีแบบสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงสีหน้าท่าทาง สายตาที่มีพิรุธแต่นิ่มนวล หรือแม้กระทั้งการพูดโดยน้ำเสียงโทนต่ำ ที่ดูจะเข้ากั๊นเข้ากันไปซะหมด
เรื่องนี้ยังมีเซอร์ไพร์เล็ก ๆ (หรือไม่นะ เพราะมีข่าวมาก่อนแล้ว) โดย Christina Ricci ผู้รับบทความน้อยเวนส์เดย์ ในซีรีส์ The Addams Family ยุค 90 จะกลับมามาปรากฏตัวอีกครั้งในในซีรีส์เรื่อง Wednesday แต่ว่าเธอจะมาในฐานะอะไร มีบทแบบไหน อันนี้เพื่อน ๆ คงต้องตามไปดูในเรื่อง Wednesday กันเอาเองนะจ๊ะ
ในเรื่องของโทน ถึงแม้ตัวซีรีส์จะเปิดตัวขึ้นมาในตรีมของโรงเรียนที่ดูจะสดใส Colorful แต่แค่ 10 นาทีซีรีส์เรื่องนี้ จะเรากลับไปหาตรีมซีรีส์โทนหม่น ๆ ดูมีความดาร์ก เหมือนกับเรื่อง The Addams Familyแต่ก็คอยสอดแทรกมุกฮา ๆ ตามฉบับของผู้กำกับสายดาร์ก ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) และนอกจากนี้เรื่องคดีฆาตรกรรม ปริศนา สัตว์ประหลาด ตัวซีรีส์ก็จะพาให้เราไปเห็นสาวเวนส์เดย์ในอีกมุมหนึ่งนั่นก็คือ ความรัก ที่ต้องบอกเลยว่าให้อารมณ์อมยิ้มแปลก ๆ ขัดกับบุคลิกของน้องเวนส์เดย์อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ ของบอกเลยว่าอยู่ในลิสต์ที่แอดต้องดูให้ได้อย่างแน่นอน ด้วยความที่เราเกิดและโตมากับ The Addams Family ตระกูลนี้ผียังหลบ กับเสียงดี๊ดนิ้วที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ใคร ๆ ที่รู้จักตระกูลอดัมส์ต้องไม่พลาดจริง ๆส่วนสำคัญที่สุดของเรื่องนี้นั่นก็คือการแคสนักแสดงที่ได้ เจนน่า ออร์เทก้า (Jenna Ortega) มารับบท เวนส์เดย์ กับคาแรคเตอร์ที่ มันใช่ ตั้งแต่ปล่อยทีเซอร์แรกออกมา
ส่วนตัวรู้สึกประทับใจมากๆ กับการแสดงออกทางสีหน้าที่นิ่ง ๆ สายตาที่มีพิรุธแต่นิ่มนวล น้ำเสียงโทนต่ำ เล่นเอาเราคนดูคิดถึงยัยหนูเวนส์เดย์ในเวอร์ชั่น Hanna-Barbera
นอกจากนี้เรื่องคดีฆาตรกรรม ปริศนา สัตว์ประหลาด ตัวซีรีส์ก็จะพาให้เราไปเห้นสาวเวนส์เดย์ในอีกมุมหนึ่งนั่นก็คือ ความรัก ก็บอกเลยว่าไม่อยากจะเชื่อ ด้วยความที่ตามน้องวันพุธตั้งแต่เด็ก ๆ จนตอนนี้เธอมีความรู้สึกรักกับเขาบ้างแล้ว ก็แอบประทับใจตรงนี้อยู่หน่อย ๆ นะเนี่ย
ขอบอกเลยว่าใครที่เป็นแฟนของบ้านอดัมส์ ซีรีส์เรื่องนี้เป้นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณต้องไม่พลาดจริง ๆ เพราะทางทีมงานเขาเก้บครบทุกรายละเอียดตัวละคร อีกทั้งผู้กำกับอย่าง ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) ก็เป็นแฟนตัวยง ของบ้านนี้ด้วยเช่นกัน