รีวิวหนัง The Mummy

รีวิวหนัง The Mummy

รีวิวหนัง The Mummy

เริ่มต้นใหม่ใน Dark Universe

หนังเปิด Dark Universe กับ เดอะมัมมี่ที่กลับมาอีกครั้ง ของยูนิเวอร์ซัล รับชมได้ที่ ดูหนังออนไลน์

ในช่วงชีิวิตของผม พบว่าเคยตื่นใจกับหนังสไตล์ ระทึกขวัญ /อาชญากรรม ผจญภัยจากมัมมี่ผีอียิปต์ที่สร้างออกมาเป็นไตรภาคอยู่ประมาณหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ได้ถึงขั้นประทับใจมากนักแต่ก็เป็นหนังที่อยู่ในความทรงจำ จนเมื่อวันหนึ่ง ได้ยินว่าทางค่ายจะหยิบ The Mummy มาสร้างใหม่อีกครั้ง พร้อมมีตัวละครใหม่ ได้ดารานำแสดงเป็น Tom Cruise ผมนี่ตั้งตารอคอยเลย

ทำให้เราได้เห็นได้ว่า Universal ต้องการจะสร้างโลกใบใหม่ที่มีแต่ตัวร้าย  อยู่ในนั้น และตั้งชื่อให้มันว่า Dark Universe ซึ่งเดอะมัมมี่จะเป็นเรื่องแรกเบิกยูนิเวิร์ส ที่จะพาเราไปพบกับปิศาจมัมมี่สาว และตัวละครใหม่ๆ

เป็นจุดเริ่มต้นก่อนจะพาเราไปพบกับปิศาจตัวอื่นๆ ไปดูกันเลย ดูหนังฟรี

รีวิวหนัง The Mummy

เรื่องย่อ รีวิวหนัง The Mummy

ทหารอย่าง นิค มอร์ตัน (Tom Cruise) เขาเป็นทหารที่ไม่เหมือนใครๆเลย เขาไม่ได้ทำหน้าที่ทหารเลย แต่เขากลับเอาเวลามาหาสมบัติ ได้ลายแทงมาก็พาเพื่อนซี้อย่าง คริส เวล (Jake Johnson) ไปเสี่ยงตายกับเหล่ากบฏ แต่ในที่สุด เขาก็ค้นพบกับแหล่งอารยธรรมโบราณแห่งชาวไอยคุปต์ แต่ทว่า มันแปลกมากเพราะจุดที่ค้นพบนั้นมันอยู่ในแถบตะวันออกกลาง

เจนนี่ ฮัลซีย์ (Annabelle Wallis) เขาไม่เจ้าของแผนที่ตามหาสมบัติก็ตามมาจนพบและเข้าใจได้ในทันทีว่า นี่ไม่ใช่เป็นสุสาน แต่มันคือที่คุมขัง และมันไม่ใช่ที่คุมขังธรรมดา เพราะเต็มไปด้วยกลไกเพื่อขังบางสิ่งไว้ไม่ให้ออกมา

และด้วยความดื้อดึงหรืออะไรก็ตาม ทำให้ปิศาจได้สมปรารถนา

มัมมี่ซึ่งเป็นผู้หญิงสวย ชื่อว่า  อาห์มาเน็ท (Sofia Boutella) ผู้ซึ่งโกรธแค้นบิดาตนจนต้องฆ่าทิ้ง นางถูกคุมขังทั้งเป็นในคุกที่ห่างไกลจากอียิปต์ เวลาผ่านมาราวห้าพันปี แต่วันนี้ เธอกำลังหลุดพ้นจากการถูกจองจำ

มัมมีให้ภาคนี้ที่เขาสร้างขึ้นมา ได้ทำมาอีกตัว เขาคือ ดร.เฮนรี่ (Russell Crowe) เขามีความตั้งใจ แน่วแน่ เลย ว่า จะรวบรวม เหล่าปิศาจร้าย และคราวนี้ เขาตั้งใจจะจับปิศาจมัมมี่ตัวนี้ ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้ด็อกเตอร์จะต้องมาเจอกับนิคผู้ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมาเล็กๆ กับยัยสาวนักโบราณคดีอย่างเจนนี่

แล้วทั้งหมดจะลงเอยอย่างไรนะ?

รีวิวหนัง ‘เดอะมัมมี่’

หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่น่าสนใจ และติด ตามเป็นอย่างมาก ในฐานะของคนที่เคยเสพเดอะมัมมี่ภาคก่อนเก่ามากหลายครั้ง เลยรู้ว่าแต่ละภาคทำมาฉีกแนว ไม่เหมือนกันเลยสักครั้ง ไม่เฉพาะแค่ตัวแสดง แต่เนื้อเรื่องและความสนุกก็ต่างกันพอสมควร

เขียนเนื้อเรื่องใหม่ เปิดจักรวาลมืด

หนังเรื่องนี้ได้สร้างขึ้นมาเพื่อพระเอกจริงๆ ทอม ครูซ เสียจริงๆ มีกลิ่นของ Mission: Impossible เข้ามาอย่างพอจับได้ มันคือหนังที่ทอม ครูซ ได้เล่นเป็นทหารที่ชอบขุดค้นหาของโบราณแต่ดันไปเจอของแรงเข้า สุดท้าย เขาต้องหนีหัวซุกหัวซุนเพราะสมบัติที่เขาค้นพบมันกลับเป็นปิศาจผู้รอวันออกมาแก้แค้น

และเมื่อมันจะมีการสร้างเป็นจักรวาลปิศาจมันก็ย่อมต้องมีใครสักคนที่คอยเชื่อมระหว่างหนังแต่ละเรื่อง ผมก็ไม่แน่ใจนักหรอกว่ารัสเซลจะได้เล่นในเรื่องอื่นหรือไม่ แต่ในภาคนี้ บทบาทของเขาค่อนข้างโดดเด่นเลยทีเดียว

เพราะเขาคือ ดร. เฮนรี่ผู้ที่มีจิตใจโหยหาอยากได้กับการเก็บรวบรวมปิศาจด้วยจุดประสงค์บางอย่าง

หนังไม่ได้ออกมาในแนวผจญภัยแฟนตาซีแนวจัดความบันเทิงเต็มจินตนาการแบบเวอร์ชั่นก่อนเท่าใดนัก แต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่เสียจนไม่ควรเสียเวลาดู

รีวิวหนัง The Mummy

เป็นเดอะมัมมี่ที่เนื้อเรื่องสุดบังเอิญ แทรกฮา ทว่าดร็อปช่วงหลัง

เป็นเนื้อเรื่องที่ ไม่อยากมองให้เป็นจริง เป็นจังไปมากมายนัก เพราะมันจะกลบความสนุก ของหนังเสียหมด เรื่องราวของการค้นพบ โดยบังเอิญจนนำไปสู่การจับ และต่อสู้กับปิศาจ ที่สั่งสมความแค้นเอาไว้นาน เป็นพันปี

ผมพบว่าเรื่องราว ช่วงครึ่งแรกนั้นชวน ให้พิศวงได้พอควร แม้บางส่วนจะต้องใช้การเล่ าด้วยเสียงบรรยายประกอบภาพไปบ้าง แต่ในระหว่างนั้น นิค มอร์ตัน ต้องดิ้นรนหนี ตายบนเครื่องบิน กลายเป็นฉากที่ชวนตื่นเต้น ได้ไม่น้อย

ขณะเดียวกันก็ชวนนึก ไปถึงภารกิจ ที่เป็นไปไม่ได้ไปด้วย

ในระหว่างทาง เราจะพบว่าหนังมี การแทรกช็อตฮาๆ เอาไว้ให้ขำได้ด้วย บางช่วงก็ชวนสะดุ้ง สุดตัวได้อยู่เหมือนกัน แต่แล้วหนังก็ชวนให้นึกถึง เรื่องเก่าๆ ของทอม ครูซ อีกครั้ง วิ่งหนีอลหม่าน นี่มันใช่เลย น่าเสียดายที่…

ช่วงครึ่งหลังของหนัง กลับไม่มีอะไรชวนตื่นตา ได้อีก

เหมือนช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีอะไรให้ชวนผจญภั ยอีกแล้ว หนังหนีห่าง จากมนต์เสน่ห์ความเป็นอียิปต์ ไปอยู่ในอังกฤษจนไม่รู้สึก ถึงความเป็นมัมมี่ แบบที่ชอบสักเท่าใดนัก เนื้อเรื่องก็ไม่มีอะไร อยากให้คาดเดา หรือแม้แต่ ยากจะคาดเดา ก็พบว่า บทลงเอยไม่เป็นอะไร ที่ชวนอึ้งหรือว้าว ผิดกับช่วงครึ่งแรก ของหนังไปเลย

เน้นแอ็คชั่นสไตล์ทอม ครูซ แต่ตัวละครไม่ชวนอิน

ถ้าจะถามว่า ‘เดอะมัมมี่’ ภาคนี้มีอะไร น่าติดตามได้บ้าง ก็คงจะเป็น ฉากแอ็คชั่น ตามที่เราได้ชม ได้ดูในหนังทุกๆ เรื่องของ ทอม ครูซ จัดหนักพอสมควร สำหรับคนที่ชื่นชอบ แอ็คชั่นสไตล์นั้นๆ แต่สิ่งที่พลาด ไปคือเสน่ห์ของเดอะมัมมี่ แบบที่เราคุ้นเคย

หนังมีความขี้เล่น ชวนคนดูมาฮาอยู่บ้าง ในช่วงครึ่งแรก ก่อนแทบจะหาย ไปเลยในครึ่งท้าย

ตัวละครในหนังเรื่องนี้ เช่น อาห์มาเน็ต ถูกเล่าถูกเล่าอดีต มาอย่างละเอียดเลยทีเดียว จึงไม่ชวนให้รู้สึกอยาก จะสงสาร หรืออยากจะเอาใจช่วย หรือแม้แต่สมน้ำหน้า ขณะที่ตัวละคร สองพระนางก็ดูไม่ทำให้ ผมรู้สึกโรแมนติกอะไรเลย ระหว่างพวกเขา อาจเพราะหนังเอง ก็ไม่ได้เล่าอะไรไป มากกว่านั้น ไม่มีแบ็คกราวด์ มากพอจะทำให้อิน ไปกับพวกเขาได้

ส่วนตัวละครของรัสเซล โครว์ ที่น่าสนใจที่สุด เพราะออกจะดูหมกมุ่น กับการจับปิศาจ หนังเปิดข้อมูล บางสิ่งที่น่าสงสัย ว่าเขาคือตัวอะไรกันแน่ แต่หนังก็ไม่ได้ให้เวลา กับการเล่าเรื่องราวเบื้องหลัง ของเขาขนาดนั้น โดยรวมมันจึงไม่ได้ เป็นเดอะมัมมี่ที่คุณต้องดู

แต่เป็นหนัง ที่จำเป็นต้องดู ถ้าจะติดตาม Dark Universe ต่อไป

รีวิวหนัง The Mummy รายละเอียดของหนัง

ชื่อภาพยนตร์: The Mummy / เดอะมัมมี่
ผู้กำกับภาพยนตร์: Alex Kurtzman
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: David Koepp (screenplay), Christopher McQuarrie (screenplay)
นักแสดงนำ: Tom Cruise, Sofia Boutella, Annabelle Wallis, Sofia Boutella, Russell Crowe, Jake Johnson
ดนตรีประกอบ: Brian Tyler
ความยาว: 110 นาที
แนว/ประเภท: ระทึกขวัญ อาชญากรรม
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 8 มิถุนายน 2560
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Universal Pictures, Perfect World Pictures, Sean Daniel Company

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *