รีวิวหนังโหด ดิบ ไล่ ล่า (2008)
หนัง เรื่องนี้ได้ทำมาจากเรื่องจริงในเกาหลีใต้ เรื่องเกี่ยวกับ ฆาตกร สุดโหด เพื่อนๆสามารถรับชม ได้ที่ ดูหนังฟรี เรามีหนังใหม่ ดูหนังออนไลน์อัพเดทก่อนใคร สุดยอดเว็บดูหนังฟรี ภาพคมชัดระดับหนังhd หนังใหม่2022 ดูได้เต็มอิ่มไม่เสียค่าบริการหรือค่าธรรมเนียม ไม่มีโฆษณามากวนใจ ดูหนังฟรี 24 ชม ดูหนังออนไลน์ และนี่เป็นหนัง
สุดยอดหนังโคตรจะโหดร้าย มันเป็น หนังที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของหนึ่งในฆาตกรที่โหดที่สุดของประเทศเกาหลีอย่าง ยูยังชอล (Yoo Young-chul) ฆาตกรต่อเนื่องที่คนเกาหลีได้ให้สมญานามว่าเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลีเลยทีเดียว ภาพยนตร์เกาหลีแนวสืบสวนสอบสวน และนี่มันไม่ใช่หนังแล้วมันเป็น เรื่อง จริงของฆาตกร ยูยังชอล (Yoo Young-chul) ฆาตกรต่อเนื่อง 20 ศพ
โดยเหยื่อส่วนมากเป็นผู้หญิงขายบริการ หลังถูกจับกุมเมื่อปี 2004 ปัจจุบันยูยังชอล ยังใช้ชีวิตอยู่ในคุกรอการประหาร และ นำมาเผยแพร่ให้ได้รับชมกัน รีวิวหนังอาชญากรรม
รีวิวหนังโหด ดิบ ไล่ ล่า (2008) ยูยังชอล เติบโตมา โดยการถูก บูลลี่ และความเกลียดชัง
ยูยังชอล เขามีปัญหาครอบครัวตั้งแต่เล็ก และ ในใจมีปมที่แกะไม่ออก ถูกบลูลี่ในโรงเรียน เขาจงเกลียดจงชังคนที่มีฐานะร่ำรวยกว่า เปรียบคนพวกนี้เป็นเหมือนปลิงหรือหมา เป็นดั่งเชื้อโรคที่ต้องกำจัด เขามักจะสังหารเหยื่อที่มีฐานะดีและภายหลังก็เลือกที่จะสังหารเหยื่อสาวที่ประกอบอาชีพโสเภณีด้วย
เหยื่อส่วนใหญ่จะถูก ทุบหัวด้วยค้อนทุบจนกว่า กระโหลกแตกละเอียด ทำร่างกายให้พิการ และจ้วงแทงให้ตายอย่างทรมาน และภายหลังเขาได้สารภาพว่าเคยกินตับของเหยื่อบางคนเข้าไปด้วย มีเหยื่อประมาณ 20 รายที่ถูกเขาฆาตกรรม ทุกศพล้วนตายอย่างสยดสยองและทรมาน
โครงเรื่องมันสร้างมาจากแฟ้มคดี ของฆาตกร ซึ่งถือได้ว่า ทำมาจากเรื่องจริง หนังเรื่อง The Chaser สร้างออกมาได้น่าติดตามสุดๆไปหาดูเลย บอกเลยว่าเรื่องจริงโหดกว่าในหนังเยอะมากก แต่ในหนังก็ถือว่าสร้างออกมาได้ตราตรึงเรื่องหนึ่งเลยเท่าที่ดูหนังแนวนี้ของเกาหลีมา ลุ้นทุกนาที เดาใจฆาตกรไม่ถูก ใครจะรอดใครจะตาย และจะจัดการมันได้ไหม นั่งไม่ติดเก้าอี้เลยจ้า ไปหาดูเถอะพลาดไม่ได้จริงๆ
จุงโฮ อดีต ตำรวจ (Yoon-seok Kim) ที่ออกมาเป็นคนคุมซ่อง ซึ่งเกิดความสงสัยเพราะเขา มีหน้าที่จัดส่งผู้หญิงให้กับผู้ใช้บริการที่มีความต้องการกามอารมณ์ แต่พักหลังมีผู้หญิงในเครือข่ายหายตัวไป สิ่งที่คิดคือเหล่าโสเภณีถูกชักจูงหรือถูกแย่งตัวไปใช่หรือไม่ ขณะเดียวกันต้องทำเงินบริการลูกค้าส่ง มีจิน (Yeong-hie Seo) ที่สภาพป่วยอ่อนแอและต้องเลี้ยงลูกมาทำงานทดแทนคนที่หายไป ทว่าเมื่อมาเช็คประวัติคนที่โทรมาติดต่อก็พบว่าผู้หญิงที่ไปกับลูกค้ารายนี้ล้วนไม่มีใครกลับมา!
เรื่องนี้มีเนื้อหาที่รุนแรง กระชากใจ
สำหรับหนังสืบสวนสอบ และ เป็นหนังระทึกขวัญเรื่องนี้ ความรุนแรงค่อนข้างเยอะ คนขวัญอ่อนต้องเตรียมใจก่อนดู แต่ถ้ามีภูมิต้านทานกับหนังแนวนี้มาพอสมควรแล้ว รับประกันว่าไม่ผิดหวังแน่นอน และต้องขอยกความดีงามให้กับนักแสดงทุกคน ที่เล่นได้สมบทบาทกันสุด ๆ โดยเฉพาะพระเอกแถวหน้าของเกาหลีอย่าง ฮาจองอู ที่มารับบทฆาตรกรโรคจิต ก็แสดงได้สมบทบาทมาก
ในแง่ความบันเทิง แน่นอนว่าผู้กำกับคนนี้จัดให้แบบไม่ขาดตกบกพร่อง เนื้อหาเข้มข้นกว่า 2 ชั่วโมงเต็ม แทบไม่ได้พักหายใจหายคอ แค่ช่วงเริ่ม 30 นาทีแรกของหนัง ฆาตรกรก็ถูกจับกุม และสารภาพพร้อมอธิบายวิธีการลงมืออย่างละเอียด แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายขนาดนั้น !! เพราะนี่มันเพิ่งแค่เริ่มต้น !! สร้างอารมณ์ที่หนักหน่วงให้คนดูได้ไม่น้อยเลย
จุงโฮ เป็นแมงดา คุมซ่อง คอยรับส่งเด็กสาวให้กับลูกค้าที่ซื้อบริการ ทว่าพักหลังเกิดปัญหา เด็กของจุงโฮหลายคนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย กระทั่งลูกค้ารายล่าสุดได้โทรศัพท์ติดต่อมาขอใช้บริการ จุงโฮเลยตัดสินใจให้ มีจิน สาวบริการที่มีลูกติดเป็นเด็กหญิงวัย 7 ขวบ
มารับบริการลูกค้ารายนี้ แต่ไม่นานจุงโฮกลับจำได้ว่าเบอร์ที่โทรมานั้นเป็นเบอร์สุดท้าย ก่อนที่เด็กของเค้าจะหายตัวไป จึงคิดว่าเป็นเอเจนต์หลอกเด็กไปขายต่อ แต่จุงโฮคิดผิด เพราะลูกค้ารายนี้คือ จียังมิน ฆาตกรโรคจิต สุดท้ายแล้ว จุงโฮจะสามารถช่วย มีจิน จากฝีมือฆาตกรโรคจิต จียังมิน ได้หรือไม่ ต้องติดตาม
ไม่นึกว่า Jung-woo Ha จะรับบทเป็นฆาตกรได้สมบทบาทขนาดนี้ ชนิดที่หน้านิ่งแล้วยังมีแววตาที่เย็นชา จะลงมือฆ่าคนสักคนหรือกี่คนก็ไม่รู้สึกรู้สาใดๆทั้งสิ้น ทำให้เชื่อว่าเป็นบุคคลอันตรายที่ไม่ควรปล่อยไว้ในสังคม ขณะเดียวกันยังปรับเปลี่ยนแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้จนน่าหมั่นไส้ กลายเป็นตัวละครที่น่ากลัวและน่ารังเกียจในเวลาเดียวกัน
ความเข้มข้นของหนังทำให้เห็นถึงการกระทำของฆาตกร
ความรุนแรงการกระทำและความรุนแรงทางด้านจิตใจ มีหลายอย่างที่ขัดใจอยากให้ฆาตกรรับผลกรรมของตัวเอง เพราะสิ่งที่ทำนั้นอำมหิตเลือดเย็นอย่างมาก แต่ไม่อาจทำอะไรได้เพราะไม่มีหลักฐาน ฉะนั้นถึงทำเป็นยอมรับฆ่าคนก็ต้องปล่อยตัวให้เดินหน้าลอยตาต่อไป นับเป็นช่วงเวลาที่ท้อแท้และหดหู่อย่างมากที่ไม่อาจเอาคืนได้ กลายเป็นช่องโหว่ที่พูดถึงกฎหมายที่ไม่อาจเอาผิดคนทำ แม้จะในความจริงเป็นข้อดีช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือเสียด้วยซ้ำ
การดำเนินเรื่อง ช่วงแรกๆอาจจะยังไม่หวือหวามากนัก อนึ่งและ เป็นผลงานกำกับเรื่องแรกของ Hong-jin Na ทำให้ไม่น่าสนใจและไร้เหตุผล จนทุกอย่างเริ่มประติดประต่อทีละนิดทำให้ละสายตาแทบไม่ลง โดยเฉพาะการสร้างความน่ากลัวที่รุนแรงผ่านความคิด ซึ่งไม่มีฉากไหนที่เห็นจะๆเต็มตาว่าทำยังไงไปบ้าง มีเพียงอาวุธที่ถือในมือคือค้อนและสิ่วที่เล็งไปที่หัวเท่านั้น สร้างความหวาดเสียวและลุ้นพอสมควร
หนังทำให้เราเอาใจช่วย อดีตนายตำรวจในการติดตามหญิงสาวที่อยู่ในการดูแลของเขามาก ๆ เราอยากรู้ มากๆว่าจะจับฆาตกรได้อย่างไร ไปยิ่งไปกว่านั้นก็อยากรู้อีกว่า ฆาตกรคนนี้มีวิธีการจัดการศพอย่างไร ฆาตกรคนนี้มีความฉลาด รอบคอบ
แต่ด้วยทักษะของอดีตนายตำรวจก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เขาต้องหาให้ได้ว่าหญิงสาวที่อยู่ในการดูแลอยู่นั้น ยังมีชีวิตรอดอีกหรือไม่และถ้ารอดนั้นอยู่ที่ใด เขาต้องสืบสวนสอบสวนแข่งจับเวลาให้ได้มากที่สุดเพราะทุกวินาทีนั้นคือความเป็นความตาย แต่หนังก็ไม่ได้ทำออกมาแนวตัดเหลี่ยมเฉือนคมอะไรมากนัก หนังพาเราดำดิ่งเข้าถึงอารมณ์มากกว่า
หลังดูแล้ว รีวิวหนังโหด ดิบ ไล่ ล่า (2008) เป็นยังไง
เนื้อหาเข้มข้น บทหนัก อารมณ์หนัก มันหนักไปหมดทั้งเรื่อง ไม่มีการผ่อนเบาให้กับคนดูเลยสักนิดความดีงามทั้งหมดต้องขอยกให้
ผู้กำกับที่สามารถนำเสนอเรื่องราว อารมณ์แบบ สมจริงสมจังผ่านตัวละครต่าง ๆ ได้ ทั้งนี้ก็ต้องขอยกความยอดเยี่ยมให้กับนักแสดงทุกคน
ดูแล้วรำคาญการทำงาน ของตำรวจ อืดอาด น่า หงุดหงิดมาก ยังกะหนังแนวตำรวจไทยในสมัยเมื่อ 30 กว่าปีก่อนของประเทศไทยยังไงอย่างนั้นเป็นหนังระทึกขวัญสืบสวนสอบสวน ที่มีฉากการใช้ความรุนแรงเยอะมาก เข้าขั้นความสยองขวัญ อย่างเช่นการใช้ค้อนกับเหยื่อ
การทำร้ายร่างกายสารพัด แล้วก็การฆ่าที่โหดร้ายทารุณ ทำร้ายจิตใจคนดูแบบขั้นสุด โอ้โห้ อะไรจะปานนั้น เรียกได้ว่าคนขวัญอ่อนไม่ควรดู แต่ถ้าใครชอบหนังแนวสะใจทางนี้รับประกันได้เลยว่าจะไม่ผิดหวังแน่นอน แต่ขอเตือนว่ามันสะเทือนใจแบบขั้นสุดเลยนะ สะเทือนใจในแบบถึงขั้นดูไปแล้วเป็นสัญญาจิตใจยังหดหู่อยู่เลย
หนังทำให้เราเอาใจช่วย อดีตนายตำรวจในการติดตามหญิงสาวที่อยู่ในการดูแลของเขามาก ๆ เราอยากรู้ มากๆว่าจะจับฆาตกรได้อย่างไร ไปยิ่งไปกว่านั้นก็อยากรู้อีกว่า ฆาตกรคนนี้มีวิธีการจัดการศพอย่างไร ฆาตกรคนนี้มีความฉลาด รอบคอบ แต่ด้วยทักษะของอดีตนายตำรวจก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน
เขาต้องหาให้ได้ว่าหญิงสาวที่อยู่ในการดูแลอยู่นั้น ยังมีชีวิตรอดอีกหรือไม่และถ้ารอดนั้นอยู่ที่ใด เขาต้องสืบสวนสอบสวนแข่งจับเวลาให้ได้มากที่สุดเพราะทุกวินาทีนั้นคือความเป็นความตาย แต่หนังก็ไม่ได้ทำออกมาแนวตัดเหลี่ยมเฉือนคมอะไรมากนัก หนังพาเราดำดิ่งเข้าถึงอารมณ์มากกว่า
หนังที่ น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลี
ว่าด้วยตัวและพฤติกรรมของฆาตกร อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นแล้วว่า เป็นคนที่มีความผิดปกติทางจิต ดังนั้นเขาจึงไม่มีการยับยั้งชั่งใจในการทำอะไรที่รุนแรงโหดร้ายทารุณ ผู้กำกับก็เลือกที่จะนำเสนอภาพในมุมนี้ออกมาได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง ตรงไปตรงมา มันเหมือนจริงมากๆ
ทรมานจิตใจคนดูเหลือเกิน เป็นการทำร้ายเหยื่อของ ฆาตกร โดยที่เราได้แต่นั่งดูทำอะไรไม่ได้ อยากช่วยก็ช่วยไม่ได้ จนอยากจะร้องไห้ เอาเป็นว่าทำร้ายจิตใจคนดูตั้งแต่ต้นจนจบ มีความรู้สึกที่เหนื่อยกับการหาหลักฐาน ทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบ
แน่นอนว่าอยากให้เจอโดยเร็วที่สุดเพราะมีตัวละครที่รอการช่วยเหลือ ซึ่งลุ้นอีกว่าจะมีโอกาสรอดมากน้อยแค่ไหน แต่ขอเตือนไว้ก่อนให้เผื่อใจเอาไว้บ้าง เนื่องจากไม่ใช่ทุกเรื่องจะสมหวังไปซะทั้งหมด แต่ละอย่างล้วนหดหู่และล้าจิตใจ บางทีตกอยู่ในสถานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป
ซึ่งเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้แล้วจู่ๆมาฆ่าคน ทว่าไม่สามารถจับเข้าคุกขณะนั้นได้เพราะไม่มีหลักฐาน ในใจคงรู้สึกเจ็บปวดพิลึกที่ความยุติธรรมไปเข้าข้างคนทำผิดสำหรับหนังเรื่องนี้เป็นการอิงถึงคดีที่เกิดขึ้นจริงในเกาหลีใต้ หรือคดีที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลี ซึ่งคนก่อคดีดังกล่าวคือ”ยูยังซอล” ผู้ฆ่าคนเพราะมันทำให้เขารู้สึกดี รีวิวหนังอาชญากรรมน่าดู
รีวิว โหด ดิบ ไล่ ล่า (2008)
Director: Hong-jin Na Genres: Action | Crime | Thriller