รีวิวหนัง DOLITTLE ด็อกเตอร์ ดูลิตเติ้ล

รีวิวหนัง DOLITTLE ด็อกเตอร์ ดูลิตเติ้ล

รีวิวหนัง DOLITTLE ด็อกเตอร์ ดูลิตเติ้ล

 

หนังเรื่อง Dolittle หรือชื่อไทยว่า ด็อกเตอร์ ดูลิตเติ้ล  เป็นหนังอีกเรื่อง ที่ที่เรียกได้ว่าดูแล้วว้าวสำหรับผม ถึงแม้ว่าในเรื่องของกราฟฟิกที่เอาสัตว์มาไว้อยู่ในทุ่งหญ้าในช่วงต้นๆเรื่องจะทำออกมาได้ไม่ดีและไม่เนียนเอาสะเลย แต่พอได้เหล่านักแสดงหลักๆออกมาดำเนินเรื่อง หนังที่ ชอบ ที่สุด คือ หนัง หน้า เธอ Dolittle ก็ทำให้หนังเรื่องนี้โลดแล่นไปได้อย่างที่เรียกได้ว่าลื่นไหลเลยที่เดียว ก็ทำให้ผมเริ่มรู้สึกว่าหนังดีขึ้นจาก ที่หงุดหงิดในต้นเรื่อง

ถึงแม้ในเรื่องกราฟฟิกของ ด็อกเตอร์ ดูลิตเติ้ล จะไม่โอเคสุดๆ ถ้าเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆในปัจจุบัน ส่วนพล็อตของเรื่องเองก็ดูไม่ได้มีความแปลกใหม่ ทั้งยังมีการเผยความลับของตัวโกงออกมาตั้งแต่ช่วงต้นๆเรื่องเลย ทำให้เราแทบจะไม่ได้ลุ้นอะไรเลย แต่ก็ต้องขอยอมรับว่าลวดลายการเล่นของตัวคุณหมอ ประกอบกับความน่ารักสดใสของทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายในเรื่อง ทำให้ ด็อกเตอร์ ดูลิตเติ้ล ดูน่ารักขึ้นมาเลยที่เดียว ส่วนบทพูดของเหล่าสัตว์ต่างๆก็ทำออกมาได้ลื่นไหล และชวนให้น่าติดตามเช่นกัน  ดูหนังฟรี

 

รีวิวหนัง DOLITTLE ด็อกเตอร์ ดูลิตเติ้ล

 

รีวิวหนัง DOLITTLE ด็อกเตอร์ ดูลิตเติ้ล  หนังสืบสวน

หนังเรื่อง Dolittle จริงๆแล้วนั้นเป็นหนังที่ดูเข้าใจได้ไม่ยาก และเด็กๆก็น่าจะถูกใจด้วย แต่สำหรับผู้ใหญ่ พล๊อตของเรื่องอาจจะค่อนข้างธรรมดาไปสักหน่อย นอกจากนี้ ผมยังรู้สึกได้ว่า โทนี่ สตาร์ค ในไอรอนแมน ที่มีคาแรคเตอร์ที่ขัดเจนและเฉพาะตัว ได้มาเล่นใน ด็อกเตอร์ ดูลิตเติ้ล ราวกับว่าเป็น จอห์นนี เดปป์ 2 ถอดแบบมาแทบทุกอย่างทั้งลีลา สายตา หรือว่าคำพูด เหมือนกับเป็นคนๆเดียวกันกับเค้าเลยทีเดียว Dolittle Pantip

แต่ถ้าถามว่าแสดงออกมาได้ดีมั้ย เราก็ต้องบอกว่าดาวนีย์แสดงได้ดีเหมือนกัน มันจึงทำให้อารมณ์โดยรวมหลังจากดูหนังจบอยู่ในโหมดสดใสเพลิดเพลิน รู้สึกดีที่ได้มาดู
หลังสูญเสียคนรัก ดร.ดูลิตเติ้ล (โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์) คุณหมอที่สามารถพูดภาษาสัตว์ได้ทุกตัวเลือกปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอกและผู้คนแล้วใช้ชีวิตอยู่กับสัตว์นานาชนิด จนกระทั่งการบุกรุกของ สตับบินส์ (แฮรี คอลเล็ต) ลูกชายนายพรานผู้มาพร้อมกระรอกที่เขาเผลอยิงโดยไม่ตั้งใจมาให้รักษา Doctor Dolittle (1998) กับ เลดีโรส (คาร์เมล ลาเนียโด) เจ้าหญิงน้อยที่มาตามตัวดูลิตเติ้ลเข้าเฝ้าถวายการรักษาพระราชินีวิกตอเรีย (เจสซี บัคลีย์) จนได้พบว่าพระราชินีถูกลอบวางยาพิษและหนทางเดียวที่จะถอนพิษได้คือต้องไปหาผลไม้ในตำนานยังดินแดนไกลโพ้น

แล้วการผจญภัยระหว่าง สองคนกับเหล่าสัตว์นานาชนิดก็ทำให้พวกเขาต้องเดินทางออกจากโลกใบเดิมที่คุ้นตาไปสู่โลกที่กว้างขึ้นเพื่อหาผลไม้มาถอนพิษให้พระราชินีก่อนแผนการของลอร์ด โธมัส แบดจ์ลีย์​(จิม บรอดเบนต์) ที่หวังครองบัลลังก์แทนพระราชินี กับ ดร.แบลร์ มัดฟลาย (ไมเคิล ชีน) หมอหลวงที่สมคบกันจะทำให้ประเทศตกอยู่ใต้อำนาจของทรราช และอาจทำให้บ้านที่เขาและเหล่าสรรพสัตว์ใช้ซุกหัวนอนต้องถูกยึดไปโดยปริยาย ดูหนังฟรี

 

รีวิวหนัง DOLITTLE ด็อกเตอร์ ดูลิตเติ้ล

 

รีวิวหนัง DOLITTLE ด็อกเตอร์ ดูลิตเติ้ล  หนังน่ารักใสใส

นับเป็นเวลา 100 ปีแล้วที่ Dr. Dolittle ของ ฮิวจ์ ลอฟติง ได้โลดแล่นไปตามสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะภาพยนตร์เองก็มีการสร้างในหลายเวอร์ชัน โดยย้อนกลับไปปี 1998 ทั่วโลกได้รู้จักกับ Dr. Dolittle ผ่านการแสดงของ เอดดี เมอร์ฟี ดาราตลกผิวสีกับมุกทะเล้น ๆ ใบหน้ากวน ๆ และเหล่าสารพัดสัตว์พูดได้ที่มาสร้างเสียงหัวเราะและความน่ารักโดยดัดแปลงให้เรื่องราวเกิดขึ้นในยุคปัจจุบันจนหนังทำเงินกลายเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์มีภาคต่อตามมาในปี 2001 และยังมีหนังแบบส่งตรงวิดีโอตามมาอีก

นั่นทำให้เห็นว่าเรื่องราวของ ดร.ดูลิตเติ้ล คุณหมอสารพัดสัตว์ยังคงสัมผัสใจผู้คนแม้กาลเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน แต่คล้อยหลังมาเพียง 19 ปีเราก็ได้ดูเรื่องราวของคุณหมอสารพัดสัตว์กันอีกครั้งในผลงานกำกับของสตีเฟน กาแกน ที่เคยมีงานกำกับเขียนบทระดับออสการ์อย่าง Traffic(2000) และ Syriana (2005) แต่คราวนี้กาแกนยึดการเดินเรื่องในยุควิคตอเรี่ยนของอังกฤษตามนิยายอีกครั้ง Dr. Dolittle นักแสดง โดยได้โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ที่เพิ่งจบภารกิจกับเหล่าอเวนเจอร์มารับบท ดร.ดูลิตเติ้ล คุณหมอที่พูดคุยกับสัตว์ได้ ซึ่งแน่นอนว่าการได้นักแสดงที่ดีก็ทำให้หนังที่มีภาพลักษณ์การเล่าเรื่องดูเชย ๆ และ ซ้ำ ๆ ดูดีขึ้นมาอย่างไม่เคยคิดมาก่อนเลยล่ะ  รีวิวหนังสืบสวนสอบสวน

 

 

รีวิวหนัง DOLITTLE ด็อกเตอร์ ดูลิตเติ้ล  หนังฟรี

ประการแรกเลยคือ ดร.ดูลิตเติ้ล ในฉบับนี้ถูกดัดแปลงจากฉบับนิยายที่เป็นหนุ่มโสดให้กลายเป็นหนุ่มหม้ายที่สูญเสียภรรยานักสำรวจสุดที่รักไป จนตัวเขาไร้ซึ่งหัวจิตหัวใจจะออกเดินทางไปไหนแม้แต่จะออกจากบ้านแม้เพียงก้าวเดียว ดังนั้นพฤติกรรมเพี้ยน ๆ ต่าง ๆ ที่โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ต้องแสดงออกก็ถูกคิดมาละเอียดแล้วว่าเกิดจากดรามาที่เป็นเรื่องราวเบื้องหลังของตัวละคร หนัง เกี่ยว กับ รักษา สัตว์

ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ความเพี้ยน ความอบอุ่น ความน่ารักของเขากับเหล่าสรรพสัตว์ก็ทำให้ดร. ดูลิตเติ้ลในเวอร์ชันนี้เข้าถึงหัวใจเด็ก ๆ ได้ไม่ยาก แถมยังพอดีแบบไม่เพี้ยนเกินไปเหมือนเชอร์ล็อกโฮล์มแต่ก็ไม่ได้เท่เกินมนุษย์แบบโทนี สตาร์ก

จะมีเสียดายหน่อยก็ตรงที่หนังเร่งจังหวะในการเล่าเรื่องเหลือเกินทำให้ฉากที่พยายามจะเล่าดรามามีพื้นที่ของมันน้อยเกินไป แต่หากพิจารณาว่ากลุ่มเป้าหมายของหนังคือครอบครัวและเด็ก ๆ เรื่องการเล่าเรื่องที่ดูเร่งรีบไปหมดแบบนี้ก็ดูจะสนองตอบครอบครัวยุค 4G 5G แบบนี้ดีเหมือนเกิน

อีกจุดที่เป็นข้อดีมาก ๆ คือความฮาของหนังโดยเฉพาะมุกจากเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ได้เหล่าดารามาให้เสียงพากย์ โดยเฉพาะบทนำอย่าง โพลี ที่ได้เอมมา ธอมป์สันผู้ผูกขาดบทสาวใหญ่ใจดีก็ทำให้โพลีมีเสน่ห์และเป็นตัวนำพาเรื่องราวไม่น้อย ซึ่งเรื่องราวบางส่วนก็ถูกบอกเล่าผ่านเสียงของโพลีด้วย หนัง ชาย ที่ คุย กับสัตว์ ส่วนกระรอกตัวฮาอย่างเควิน ก็ได้ เครก โรบินสัน ดาราตลกผิวสีมาพากย์ได้กวนชวนหัวเราะมาก ๆ

และที่ถือเป็นตัวขโมยซีนมาก ๆ ก็หนีไม่พ้น ชีชี่ ลิงกอริลลาขี้กลัวที่ได้ รามี มาเล็ก จาก Bohemian Rhapsody และ Mr. Robot มาพากย์ได้อย่างมีเสน่ห์คู่กับบท โยชิ หมีขั้วโลกขี้หนาวที่ได้อดีตนักมวยปล้ำอย่าง จอห์น ซีนา มาพากย์ได้อย่างน่ารัก น่าชัง นอกนั้นบทของสัตว์ตัวอื่นก็ถูกเฉลี่ยกันไปอย่าง ทอม ฮอลแลนด์ ที่มาพากย์เป็น จิ๊ป หมาคู่ใจของดร.ดูลิตเติ้ล เพื่อหวังขายว่านี่คือการกลับมาร่วมงานกันต่อจากอเวนเจอร์ก็กลายเป็นเพียงตัวประกอบไปอย่างน่าเสียดาย  รีวิวหนังใหม่

 

 

สรุปเรื่องย่อหนัง DOLITTLE

มาว่ากันถึงความลงตัวของหนังกันบ้าง ด้วยความที่นิยายมีมาเกิน 100 ปี ดัดแปลงมาครบทุกสื่อแล้ว ดังนั้นการที่ทุกคนรู้จักเรื่องราวและคาแรกเตอร์ของดร. ดูลิตเติ้ล จนทะลุขนาดนี้แล้วก็เหมือนกาแกน จะไม่ได้สนใจเล่าที่มาที่ไปของ ดร.ดูลิตเติ้ล นักโดยหนังใช้อนิเมชันสไตล์โรโตสโคป (ถ่ายหนังมาแล้ววาดทับทีละเฟรมให้กลายเป็นการ์ตูน) มาบอกเล่าเรื่องราวที่มาที่ไปของดร.ดูลิตเติ้ลตอนต้นเรื่องเพื่อปูที่มาพฤติกรรมเพี้ยน ๆ ของเขาเท่านั้น แต่กลับไม่ได้สำรวจสภาพจิตใจของตัวดูลิตเติ้ลฉบับนี้นัก

ซึ่งก็น่าเสียดายที่การที่หนังฉบับนี้เป็นฉบับแรกที่ตัดคำว่า ด็อกเตอร์ ออกจากชื่อเรื่องให้เรารู้สึกถึงความเป็นมนุษย์มากขึ้นแต่ดันเล่าให้เขากลายเป็นผู้วิเศษเสียยิ่งกว่าเวอร์ชันอื่นเสียอีก Little Doctor ซับไทย และแม้บทจะบังคับให้เขาต้องกลับไปสู้กับพ่อตา (รับบท โดย อันโตนิโอ บันเดอราส) แต่ก็ดันไม่มีอะไรมากไปกว่าการสร้างฉากผจญเสือดุร้ายอย่างแบร์รีแค่นั้นเอง และถ้าพ้นจากดรามาที่เราว่ายังไม่ขยี้ให้สุดแล้ว ด้านการเล่าเรื่องราวแนวผจญภัยเองที่อุตส่าห์อัดทั้งฉากขับเรือรบไล่ล่า เอาอานใส่ให้ปลาวาฬช่วยเร่งสปีดเรือ ระเบิดเมือง สู้เสือ ไปจนถึงผจญมังกร

หนังก็เลือกให้ปมทุกอย่างเริ่มง่ายจบง่ายขาดความตื่นเต้นสำหรับคนดูวัยผู้ใหญ่มากไปหน่อย แต่อย่างว่าหากมองว่านี่คือหนังครอบครัวก็คงต้องทำใจละครับยังดีที่หนังมีทั้งมุกฮาและฉากผจญภัยที่น่าตื่นตาอัดมาถี่พอสมควรแต่เชื่อว่าเด็ก ๆ จะชอบแน่นอน รีวิวหนังน่าสนใจ

 

 

สรุปเรื่องย่อหนัง ด็อกเตอร์ ดูลิตเติ้ล

สรุปแล้ว Dolittle คือหนังที่เราแนะนำให้ครอบครัวพากันไปสนุกในโรงภาพยนตร์มากกว่าคอหนังที่ต้องการหาหนังแอ็กชันผจญภัยสนุก ๆ น่าตื่นเต้นดู little doctor พากย์ไทย เพราะแม้หนังจะมีซีนน่าตื่นตาตื่นใจอยู่เยอะ แต่โทนการเล่าเรื่องดูจะเอาใจเด็ก ๆ มากกว่าผู้ใหญ่ ยังดีที่ได้มุกฮา ๆ และการพากย์ที่มีเสน่ห์จากเหล่าดาราดังมาทำให้เรื่องราวมีสีสันและงานโพรดักชันที่ทำได้ในระดับไม่น่าเกลียดก็ทำให้ Dolittle เหมาะมากกับการเป็นหนังครอบครัวเปิดปี 2020 ได้อย่างหรรษา  รีวิวหนังดัง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *