รีวิว VAGABOND เจาะแผนลับเครือข่ายนรก อีกหนึ่งซีรีส์ที่ต้องดู และคำถามสำคัญจะมีภาคต่อมั้ยยยย
รีวิว VAGABOND สวัสดีทุกคน…ช่วงนี้ก็ใกล้วันหยุดเต็มที เชื่อว่าหลายคนมีแผนไปเที่ยว และก็เชื่อว่าหลายคนเตรียมนอนพักผ่อนที่บ้าน หาซีรี่ย์ดูในช่วงวันหยุด แน่นอนแหล่งหาซีรี่ย์มาดูเกือบ100%ทุกคนต้องมีไว้ดูซีรี่ย์คือ ‘Netflix’ วันนี้เราจะมาแนะนำ1ซีรี่ย์เป็น ‘Original Netflix’ ที่ทุ่มทุนสร้างกว่า656ล้านบาท บอกเลยเรื่องนี้คุณภาพเทียบเท่า Hollywood
VAGABOND หรือในชื่อไทยว่า’เจาะแผนลับ เครือข่ายนรก’ ซีรี่ย์ทุ่มทุนสร้างจากเกาหลี กว่า 2 แสน 5 หมื่นล้านวอนหรือ 656 ล้านบาท กำกับโดย’ยูอินชิก’ ฉายพร้อมกันทั่วโลกใน’Netflix’และทางช่อง ‘SBS’ ของเกาหลี ในวันและเวลาเดียวกัน (จำนวน16ตอนใน’Netflix’ 32 ตอนในช่อง’SBS’) นำแสดงโดย “อีซึงกิ, แบซูจี” เสิรมทัพนักแสดงด้วย “ชินซองรก, มูนจองฮี, ฮวังโบรา, เบคยูนชิค, จองมันชิก, จางฮยอกจิน” และนักแสดงมากฝีมืออีกมากมาย ดูหนังออนไลน์
รีวิว VAGABOND เรื่องย่อ
ว่าด้วยเรื่องของสตั๊นแมนหนุ่ม’ชาดัลกอน'(รับบทโดย’อีซึงกิ’) ที่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นผู้กำกับคิวบู๊ ก่อนจะออกจากสตั๊นแมนมาขับแท็กซี่ เพื่อหาเลี้ยงหลานชาย’ชาฮุน’ที่กำลังศึกษาเล่าเรียน โดยโกหกหลานว่ายังทำอาชีพสตั๊นแมนอยู่ วันนึงหลานชายรู้ความจริงก่อนเดินทางไปสาธิตยูโดที่โมร็อกโก ว่าคุณอาได้ออกจากสตั๊นแมนแล้ว
และได้เก็บของที่คุณอารักไว้ให้ และได้อัดคลิปบอกความในใจ ก่อนเครื่องบินจะขึ้นบิน จัดเก็บไว้ในคลาวด์ให้คุณอาดู หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ก็ได้เกิดการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เครื่องบินที่ไปโมร็อกโกเกิดระเบิด และตกระหว่างใกล้ถึงโมร็อกโก ซึ่งมีทีมสาธิตยูโดของเกาหลีอยู่ในนั้นด้วย และเสียชีวิตยกทีม และผู้โดยสารเสียชีวิตทั้งลำทั้งหมด 211 ศพ
ทางรัฐบาลเกาหลี ได้ออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้บริษัทที่ก่อสร้างเครื่องบินลำนั้นรับผิดชอบ และชดใช้ค่าเสียหายให้กับญาติผู้เสียชีวิต และให้นำญาติผู้เสียชีวิต เดินทางไปทำพิธีไว้อาลัยที่โมร็อกโก การเดินทางครั้งนี้ทำให้’ชาดัลกอน’ได้รู้ความจริงว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุก่อการร้าย เพราะเห็น 1 ในผู้โดยสาร ที่หลานชายได้ถ่ายติดไว้ในวีดีโอบนเครื่องบิน รอดชีวิตมาอยู่สนามบิน ‘ชาดัลกอน’ ได้พยายามตามชายปริศนาจนเจอตัว และเค้นถามความจริง แต่เกิดการต่อสู้ ทำให้ผู้ร้ายหลบหนีไปได้
‘ชาดัลกอน’ ได้พยายามบอกกับญาติผู้เสียชีวิต แต่ทุกคนกลับไม่เชื่อ ก่อนที่ ‘ชาดัลกอน’ จะร้อนใจไปขอความช่วยเหลือ และขอความรับผิดชอบจากเจ้าหน้าที่สถานฑูต’โกแฮรี (รับบทโดย’แบซูจี’) ให้ช่วยหาความจริง และทำให้รู้ความจริงว่า ‘โกแฮรี’ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่สถานฑูต แต่เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของเกาหลี ‘NIS’ ได้แฝงตัวมาปฏับัติหน้าที่ในโมร็อกโก
‘โกแฮรี’ ตัดสินใจช่วย’ชาดัลกอน’หาความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ และได้รู้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุก่อการร้าย หวังทำลายคู่แข่ง ทางด้านการขายอุปกรณ์การบิน และการประมูลเครื่องบินเกี่ยวกับทางการทหารครั้งใหญ่ของเกาหลี ก่อนที่เรื่องราวทั้งหมดจะพัวพันไปถึงเรื่องการเมือง
และปมปริศนาหลายอย่าง การใส่ร้ายคู่แข่ง ผู้บงการเรื่องการทำให้เครื่องบินตก และการหาความจริง ที่โดนอำนาจสั่งปกปิดสืบสวนคดี และการโดนตามมาฆ่าหลายครั้งของ’โกแฮรี-ชาดัลกอน’ และได้รู้ว่าข้าราชการหน่วยงานต่างๆ ทุจริตช่วยปกปิดความจริงของคดีนี้ ก่อนที่ทุกคนพยายามหาความจริง และช่วยเปิดโปงในที่สุด และเหตุการณ์จะเป็นไปอย่างไรต่อ พระเอกจะตามตัวคนร้ายได้ไหม ก็ไปหาซีรี่ย์ ‘VAGABOND’ มาดูกันเอาเองนะ
บู๊ดุเดือด คอรัปชั่น การเมืองเข้มข้น สนุกทุกตอน เป็นอีกซีรีส์แนะนำที่ไม่ควรพลาดจริง ๆ
นี่เป็นซีรีส์อีกเรื่องที่บอกได้เต็มปากเต็มคำว่าสนุกมาก แอคชั่นถี่ยิบ จนรู้สึกว่าพระเอกมันจะบู๊บ่อยไปไหน มีซีนให้คนดูได้หยุดหายใจหายคอน้อยมากในช่วงต้น แต่พอเริ่มมีประเด็นเรื่องการคอรัปชั่น และการเมือง หนังก็เริ่มทำให้เห็นว่าความเข้มข้นไม่ได้มีแต่เพียงฉากต่อสู้ แต่การหักเหลี่ยมเฉือนคมก็มีไม่น้อยเช่นกัน รวมรีวิวหนัง
ส่วนตัวแล้วผมมองว่าตอนจบไม่ได้ค้างอะไรขนาดนั้น แต่ก็อยากให้มีภาคต่อเหมือนกันครับ เพราะมันสามารถเล่าต่อได้สบายมาก ซีรีส์เรื่องนี้โดดเด่นทั้งการวางบท ตัวละคร มีหลายฉากที่หนังทิ้งปมให้เราสงสัย หรือรู้สึกเหมือนจับผิดได้ แต่พอดูจนจบแล้ว หลาย ๆ ฉากมันมีการนำกลับมาเล่าใหม่อยู่เรื่อย ๆ จนรู้สึกว่าคนคิดบทและผู้กำกับวางแผน และเก็บรายละเอียดได้ดีมาก
โดยรวมนี่เป็นซีรีส์ที่ผมแนะนำสุด ๆ สำหรับคอหนังแอคชั่น แม้จะมีฉากที่อาจจะรู้สึกว่ามันเวอร์ไป แต่ก็ถือว่าเหมาะกับคอหนังที่ดูเพื่อความบันเทิงจริง ๆ ยังไงก็ตามฉากที่ไม่บันเทิงของเรื่องนี้ก็มีอยู่เหมือนกัน คือฉากโศกนาฏกรรมอันเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งทำออกมาได้โหดร้ายและหดหู่พอสมควร แต่ถือว่าทำได้ดี เพราะยิ่งทำให้เรามีอารมณ์ร่วมและเข้าใจแรงขับเคลื่อนของตัวละครหลักอย่างชัดเจน
แนะนำตัวละคร
ชาดัลกอน รับบทโดย อีซึงกิ เขามีความฝันอยากเป็นผู้กำกับหนังแอ็กชัน เขาจึงทำงานเป็นสตั้นแมน แต่เมื่อพี่ชายของเขาเสียชีวิต เขาจึงต้องรับหลานมาเลี้ยง และพยายามทำทุกอย่างเพื่อหลานของเขา
โกแฮรี รับบทโดย แบซูจี เจ้าหน้าที่ของสถานทูตเกาหลีใต้ประจำโมร็อกโก แต่แท้ที่จริงแล้วเธอทำงานให้หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ เธอมาสืบหาการทุจริตของคนในสถานทูต เมื่อเธอทำงานเสร็จแต่ยังไม่ถูกเรียกตัวกลับ จึงอยู่ต้อนรับชมรมฯเทควันโด้ที่จะมาจากเกาหลีใต้
กีแทอุง รับบทโดย ชินซองรก เขาเป็นคนที่โกแฮรีชอบ เป็นคนนิ่ง ๆ ไม่ค่อยพูด เป็นคนเก่งมีฝีมือ เป็นคนที่คอยช่วยเหลือแฮรีและดัลกอนในการเปิดเผยความจริง
ซึ่งพล็อตเรื่องน่าติดตามมากๆผู้กำกับเรื่องนี้ดูมีไพ่ในมือหลายใบมากคือมันเป็นไปได้หมดเลย และก็ปิดจบเรื่องได้ค้างคาใจและมีคำถามในใจอยู่มากมายเลยทีเดียวซึ่งมันจบไปแล้วแต่ความรู้สึกเหมือนมันจะเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น นี่เลยทำให้หลายๆคนยังคงรอคอยซีซั่นสองกันอยู่
อยากจะบอกว่าพระนางเรื่องนี้บู้ได้มันส์สะใจคนดูมาก ถ้าอยากลองไปรับชมย้อนหลังสามารถไปรับชมได้ทางNetflix ช่องทางเดียวเลยเพราะซีรี่ย์เรื่องNetflix เป็นผู้ที่สร้างขึ้นมา ใครที่ยังไม่เคยดูก็ไปร่วมบู้กับพระนางได้เลย
รีวิว Vagabond คะแนน 9/10
ความรู้สึกตอนที่ดู Vagabond EP.1 เลยคือเรื่องนี้ทำไมมันเจ๋งจังวะ ด้วยความที่ซีรีส์ปูพื้นฐานอย่างรวดเร็วว่า ชาดัลกอน พระเอกของเรื่องเคยเป็นสตั๊นท์แมนที่มีทักษะผ่านงานเสี่ยงตายมาก่อน และผู้ชายเกาหลีใต้ทุกคนเคยเป็นทหาร บวกกับความแค้นที่มี ทำให้ซีรีส์ตอนเปิดนี่คือเดอะเบสต์มาก ๆ ระห่ำตั้งแต่ EP.แรกเลย โชว์สตั๊น โชว์คิวบู๊แอ็คชั่นไล่ล่ามันสุด ๆ
และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือนางเอก โกแฮรี นางฟ้าประจำเรื่อง ตอนไหนที่ใส่แว่นนี่แทบจะลงไปนอนดิ้นกระแด่ว ๆ โกแฮรีน่ารักมากกกกก ยิ่งตอนจบเมื่อวานได้เห็นหัวไหล่นางเอกด้วย ตาย ๆ ๆ ๆ กูตาย
ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ซีรีส์ไม่ได้มีดีแค่ฉากแอ็คชั่นอย่างเดียว แต่เนื้อเรื่องในส่วนอื่นก็เข้มข้นไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสืบสวนสอบสวน การทุจริตคอร์รัปชั่นในรัฐบาล การทำงานที่ชักช้าอืดอาดของระบบราชการ เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจเบียดเบียนประชาชน ซึ่งซีรีส์ได้นำมาตีแผ่ได้อย่างเจ็บแสบ และเชื่อว่าประเด็นหลาย ๆ เรื่องมันเป็นสากล ด่ารัฐบาลเกาหลีใต้ สะดุ้งยันรัฐบาลไทย
และ Vagabond เป็นซีรีส์ที่เนื้อเรื่องค่อนข้างเดายาก ตัวละครเกือบทุกคนเป็นสีเทา ๆ เดี๋ยวร้ายเดี๋ยวดี คือทุกฝ่ายพร้อมที่จะเปลี่ยนข้างได้ทุกเมื่อแล้วแต่ตามสถานการณ์ ซึ่งผู้ชมที่ตามเชียร์มาตลอดนี่คงสับสนตัวเองน่าดู ก็ตอนแรก ๆ ฉันยังเกลียดมันอยู่เลย ทำไมตอนนี้ฉันรักมันเฉยเลยวะ อย่างสองคู่หูนักฆ่า ลิลลี่คนสวย กับนายทหารเกาหลีเหนือซื่อบื้อนั่นน่ะ เปิดตัวมาอย่างร้าย แต่สุดท้ายทำไมมุ้งมิ้งกันจังวะคู่นี้เนี่ย น่ารักเฉยเลย
ซึ่งประเด็นตรงนี้ช่วยเตือนเราว่าคนดี-คนเลวมันไม่มีจริง มันมีแต่เลวน้อยกับเลวมาก ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ล้วน ๆ ทั้ง ๆ สองคนนี้จ้องจะฆ่าพระเอกมาทั้งเรื่อง แต่พอหันมาช่วยพระเอกเราก็เหมาว่าเป็นฝ่ายดีหมด ยกตัวอย่างเหมือนเรามีเพื่อนเป็นนักเลงปากหมา เราจะพูดเต็มปากว่ามันเป็นคนดีก็ไม่ได้ แต่ว่ามันก็เป็นพรรคพวกของเรา ตรงนี้อยู่ที่มุมมองล้วน ๆ ว่าเนื้อเรื่องนำเสนอแบบไหน รีวิวหนังน่าดู
แล้วยิ่งตอนท้าย ๆ นี่เนื้อเรื่องพลิกไปพลิกมาอย่างกับปลาเผา จากที่สู้กับนายทุน กลายเป็นสู้กับรัฐบาล สุดท้ายกลายเป็นว่ารัฐบาลก็ถูกคลอบงำโดยองค์กรระดับโลกอีกที โอ้โห นี่มันเจมส์ บอนด์แล้ววววว
ตอนจบเชื่อว่ามีใครกลาย ๆ คนอุทานว่า ห๊ะ?! หลังจากดู EP.สุดท้ายจบแน่นอน ก็แน่ล่ะซีรีส์มันยังไม่จบจริง ๆ ยังทิ้งปริศนาไว้เพียบให้รอติดตามต่อในซีซั่นสอง หลังจากชาดัลกอน กับโกแฮรี ไปฟาร์มเวเวลมาแล้ว ระห่ำกว่าซีซั่นนี้แน่นอน
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง Vagabond
Vagabond เป็นซีรีส์ที่เรียกได้ว่าครบรสชาติสำหรับซีรีส์เกาหลีเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนต่อสู้มันเต็มไปด้วยเรื่องราวความดราม่าการสืบสวนสอบสวนที่เข้มข้นการต่อสู้ที่ดุเดือดมีฉากเกี่ยวกับความรักเข้ามาให้เราได้เห็นเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นเรื่องการสืบสวนสอบสวนมากกว่าตัวละครที่แข็งแกร่งมากที่สุดในเรื่องนี้ก็คือตัวร้ายที่เหมือนว่าจะไม่มีวันเอาชนะได้เลยมันยิ่งทำให้เรารู้สึกเอาใจช่วยตัวละครหลักมากยิ่งขึ้นไปอีก
ไม่เพียงเท่านั้นดำเนินเรื่องไปมาก็เริ่มมีการหักหลังกันมากยิ่งขึ้นจนทำให้เรื่องสามารถพลิกไปมาได้อย่างยอดเยี่ยมจนเราแทบจะไม่สามารถเดาได้เลยโดยรวมแล้วถือว่าเป็นซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนต่อสู้ที่มีความยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือบุคลิกของพระเอกที่บางครั้งมีความหุนหันพลันแล่นไม่ยั้งคิดจนทำให้มันเกิดเรื่องราววุ่นวายตามมามากมาย แต่ถึงแม้ว่ามันจะสร้างเรื่องวุ่นวายพระเอกของเราก็ยังคงนิสัยแบบเต็มไปเรื่อย ๆ แม้ว่าจะมีการพัฒนาตัวละคร แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นก็สร้างความหงุดหงิดให้ผู้รับชมอย่างเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว รีวิวหนังอาชญากรรม
โดยรวมนี่เป็นซีรีส์ที่แนะนำสุด ๆ สำหรับคอหนังแอคชั่น แม้จะมีฉากที่อาจจะรู้สึกว่ามันเวอร์ไป แต่ก็ถือว่าเหมาะกับคอหนังที่ดูเพื่อความบันเทิงจริง ๆ ยังไงก็ตามฉากที่ไม่บันเทิงของเรื่องนี้ก็มีอยู่เหมือนกัน คือฉากโศกนาฏกรรมอันเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งทำออกมาได้โหดร้ายและหดหู่พอสมควร แต่ถือว่าทำได้ดี เพราะยิ่งทำให้เรามีอารมณ์ร่วมและเข้าใจแรงขับเคลื่อนของตัวละครหลักอย่างชัดเจน