สวัสดีครับวันนี้เราจะมารีวิว หนังอาชญากรรม เรื่อง JOKER 2019 เรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่ใครหลายๆคนนั้นชื่นชอบ ตัวตลกสุดเท่ที่เป็นตัวร้าย ในภาพยนตร์หลายๆเรื่องไม่ว่าจะเป็นหนังผีหนังสยองขวัญ หรือหนังโจรกรรมอาชญากรรมต่างๆมักจะมีหน้าตัวตลกอย่างโจ๊กเกอร์มาให้เราได้เห็นกัน บ่อยครั้ง วันนี้เราเลยขอมารีวิวโจ๊กเกอหลังจาก ดูหนังออนไลน์ ร์เวอร์ชั่นนี้กัน เป็นเวอร์ชั่น 2019 ที่เราได้เห็นกันล่าสุด แล้วยังไม่มีเวอร์ชั่นใหม่ๆออกมาให้เราได้เห็นกัน
รีวิว JOKER 2019 ชีวิตที่แสนโหดร้ายก่อนจะมาเป็นโจ๊กเกอร์
แต่กระทั่งคืนหนึ่งที่เขาพยายามจะแสดงตลกเดี่ยว แต่กลับได้พบความจริงว่าตัวเขาเองต่างหากที่เป็นแค่ตัวตลก เขาไม่เป็นตัวของเขาเอง ตัวเองเวลาที่มีผู้คนมากมายมารุมล้อม ซึ่งเห็นได้จากเสียงหัวเราะของผู้คน และ ดูไม่เหมาะสม ยิ่งเขาพยายามควบคุมมันเท่าไหร่มันก็ยิ่งจะแสดงออกมา จนทำให้เขานั้นแสดงความเยาะเย้ยต่างๆและรวมถึงความรุนแรงออกมา อาร์เธอร์ เวลาส่วนใหญ่ของเขานั้นจะไปกับการดูแลแม่ของเขาที่ไม่ค่อยแข็งแรง และไขว่คว้าตามหาคนที่เหมาะจะมาเป็นพ่อซึ่งเขาไม่เคยมีมาก่อน
ตั้งแต่นักธุรกิจชื่อดังที่เป็นมหาเศรษฐีอย่าง โทมัส เวย์น และไปจนถึงพิธีกรรายการทีวีชื่อดังอย่าง เมอร์เรย์ แฟรงค์ลิน เขาได้พบว่าตัวของเขาเองนั้นอยู่ปลายทางระหว่างโลกแห่งความจริง กับโลกแห่งความบ้าคลั่ง ในการตัดสินใจที่ผิดพลาดของตัวเขา เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นได้กลายเป็นชนวนเหตุที่นำไปสู่ความโกลาหล แล้วความรุนแรงมากมายในประเทศ
ถ้าดูจบแล้วคุณจะจำชื่อ อาร์เธอร์ เฟล็ก ตัวละครโจ๊กเกอร์ฉบับนี้ อย่างขึ้นใจ
ซึ่งถ้าพูดถึงการไล่ตามความสำเร็จและแรงกดดันจาก Marvel นั้นมันยิ่งทำให้บิดเบี้ยวจากการที่ต้องทอดทิ้งแนวทางการสร้างตัวละครแบบที่มีมิติในเชิงลึก กลายเป็น Action ผาดโผนผสมอารมณ์ขันตามสไตล์ของค่าย Marvel เลย แต่แน่นอนว่ามันก็ไม่ค่อยจะขำกันสักเท่าไหร่ เพราะว่ามันสวนทางกับบทดราม่าที่ยังพยายามยึดเอาไว้นั่นเอง
มันเลยกลายเป็นการใส่ดราม่าแบบ ฉาบฉวยสักนิดนึง และพอร์ตเรื่องนั้น กลายเป็นการยัดเยียดให้เกิดความดราม่านั่นเอง ที่ทำให้ผู้ชมหลายๆคนต้องยอมอินแม้จะเป็นในยุคของ Wonder Woman และ อควาแมน จะเริ่มลงตัวกันมากขึ้น แต่ยังไงก็ต้องยอมรับเลยว่ายังห่างไกลมาก จากการเป็นดราม่าที่เข้มข้นที่เรียกได้ว่าเป็นรากฐานของ DC จริงๆ
ความกล้าของค่าย warner ที่ยอมทิ้งรายได้มหาศาลจากการตาม Marvel เพื่อสร้างหนังเรื่อง JOKER 2019
เผลอๆจะเอาเรื่องพวกนี้มาเพี้ยนไปหมดด้วย นี่จึงต้องพยายามยอมรับในความกล้าของผู้บริหารของค่าย warner มากๆเลยทีเดียว ที่เขานั้นเลือกที่จะเสี่ยงเอาตัวละครดังอย่างโจ๊กเกอร์มาทดลอง กับแนวทางหนังที่หนักหน่วงแบบนี้
เรียกได้ว่าทำผลงานจนสามารถคว้ารางวัลหนังยอดเยี่ยมอย่างรางวัล สิงโตทองคำ หรือ Golden Lion จากเทศกาลหนังเมืองเวนิสในไม่กี่ปีที่ผ่านมา พร้อมเสียงปรบมือที่ยาวนานของผู้ชมที่มากมาย ซึ่งนั่นเป็นการเริ่มต้นของสัญญาณแรกในการลุยเวทีรางวัลใหญ่ ในปีนั้นของภาพยนตร์ที่อาจจะตามรอยรุ่นพี่อย่าง The Shape of Water ในปี 2017 และโรม่า ในปี 2018 ซึ่งต่างก็เคยได้รับรางวัลสิงโตทองคำไปก่อนแล้ว ก่อนที่จะไปชนะรางวัลในเวทีออสการ์ได้อีก ขอพูดไว้ตรงนี้เลยว่าก่อนที่จะดูหนังนั้นมีความตั้งใจนิดหน่อย และคิดล่วงหน้าไปเยอะมาก ว่าถ้าดูจบอาจจะไม่ชอบหนังเรื่องนี้
แต่พอได้เข้าไปดูจริงๆนั้นเอาตรงๆนะรู้สึกว่า มันประสบความสำเร็จอ่ะและไม่ใช่น้อยๆคือมันทำให้เราดิ่งลงไปในตัวละครหลักสุดๆ ตัวละครหลักที่เราพูดคือ อาร์เธอร์ เฟล็ก เรียกได้ว่าทำให้เราหลงใหลและจมดิ่งไปสุดๆกับตัวละครนี้ ตอนที่ดูนั้นรู้สึกในใจเลยว่าเห็นใจตัวละครตัวนี้มากๆรู้สึกเป็นห่วง ฉันอยากด่าอยากว่า และอยากโอบกอดให้แน่นๆ ไปพร้อมๆกัน เรียกได้ว่ามึงคือประสบการณ์ที่แสนจะมหัศจรรย์ที่เราจะได้เห็น วาคีน ฟินิกส์ จากตัวละครที่ธรรมดา จนกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดที่มีชื่อว่าโจ๊กเกอร์ ในที่สุด
มันคือผลงานที่แสนยอดเยี่ยมจากผู้กำกับอย่าง Todd Phillips ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังที่สร้างชื่อตัวเองมาจาก ภาพยนตร์แนวคอมเมดี้ภาคแรกอย่าง The Hangover นี่จึงเป็นการที่เขาได้พลิกแพลงมาทำภาพยนตร์ดราม่า ที่หนักหน่วงสุดๆอย่างจริงจัง และยิ่งการนำคาแรคเตอร์จากคอมิกดังมาดัดแปลงในครั้งแรกของเขาด้วย แล้วสิ่งที่คนดูนั้นชื่นชมผู้กำกับกันอย่างมากเลยคือ ฉากภาพ ต่างๆและรวมถึงวิสัยทัศน์ พี่ได้นำเสนอ ที่พยายามทำให้เรานึกถึงเมือง New York ในปี 70
ที่เป็นปีแห่งความโกลาหลและความสับสนวุ่นวาย ผู้คนต่างๆล้วนแต่หาคุณค่าในความดีงาม ให้กับตัวเอง ในตัวผู้อื่น เรียกได้ว่าเป็นยุคที่ผู้คนนั้นหลงทาง ทั้งคดี watergate สงครามเย็น สงครามเวียดนาม และพวกลัทธิข้างศาสนา การนำยุคสมัยที่ถูกต้องมาสู่การสร้างภูมิหลังให้ตัวละครที่ลงตัว เรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จที่ Perfect ไม่มีที่ติเลย แล้วยังไม่รวมงานด้านภาพและ Visual ต่างๆอีกนะ เป็นความรุนแรงของภาพยนตร์ที่ทำออกมาได้อย่างมหัศจรรย์ และการเอ่ยชื่อของตัวละครนั้นทำให้ทุกคนนึกถึงเหตุการณ์นั้นหลังจากดูจบกันไป ตามๆกันเลยทีเดียว
สร้างตัวละครให้ผู้ชมเข้าใจหัวอก ของตัวหลักได้อย่างลึกซึ้ง
Jokerสนุกมั้ย หนังได้หยิบจดสำคัญมายัดใส่ตัวละครโจ๊กเกอร์ คือการที่เขานั้น ต้องเป็นตัวละครที่ไร้ตัวตน ไม่มีภูมิหลังที่ชัดเจนว่าเขาวันนั้นคือใคร หรือมีที่มาที่ไปยังไง เป็นจุดต่ำของสังคมความว่างเปล่าที่ไม่มีใครแยแส ความบ้าคลั่งที่ไปได้ทุกที่ แต่กลับกันดันเป็นฮีโร่ของสังคมที่ป่วยทราม และพิทักษ์ความยุติธรรมอันแสนเน่าเฟอะ เหมือนกับผู้สร้างนั้นทิ้งโจทย์จาก Comic ทุกเรื่องไว้บนปลายทาง ก่อนที่จะนำมาเรียบเรียงและใช้สอยระหว่างทางเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายในตอนท้าย จากเรื่องราวที่ดูแปลกใหม่ไม่คุ้นเคย มาสู่ฉากจบในตอนท้ายที่เป็นเนื้อเดียวกันกับตำนานในใจของผู้ชมภาพยนตร์ทุกคน
ความละเอียดต่างๆของจิตวิเคราะห์และดึงลึกลงไปถึงประเด็นความโหยหาของตัวละครที่ต้องการพ่อ ที่พยายามเอาภาพของพ่อตัวละครในจินตนาการ ที่ไม่เคยได้พบเจอ มาทับซ้อนกับไอดอลของตัวละครในชีวิตจริงอย่าง เมอร์เรย์ แฟลงคลินส์ ที่เป็นพิธีกรชื่อดังเจ้าของรายการทอล์คโชว์ ที่ตัวเอกอย่างอาร์เธอร์ รับชมมาตั้งแต่เด็กโดยตลอด จนถึง โททัส เวย์น ที่เป็นเศรษฐีผู้ที่มีเงินทองมากมาย ที่จะเปลี่ยนผันชีวิตในความยากจนของอาเธอร์ และแม่ของเขา กับความฝันของเขาที่พยายามทำมาตลอดต้องหล่นหายไปเพียงเพราะคำพูดของโทมัสเพียงไม่กี่คำ แค่ประเด็นเรื่องของพ่อประเด็นเดียวก็เรียกได้ว่ามีคนไปวิเคราะห์กันได้หรือยาวเป็นบทความหลายๆหน้าแล้ว นี่มันจึงเป็นความโดดเด่นและทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เฉิดฉาย ทำให้เรารู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ ใส่ใจรายละเอียดทุกเม็ดทุกซอกทุกมุมของตัวหลัก และการเล่าเรื่องผ่านตัวละครนำ ตลอดทั้งเรื่อง ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ต้อง เพิ่งพาตัวละครอื่นเลยด้วยซ้ำ
และอีกหนึ่งสิ่งที่จะไม่พูดถึงเลยก็คงไม่ได้ ก็คือผลงานการแสดงที่ทั้งโลกต้องจารึก กันอีกครั้ง ของ วาชีนฟีนิกซ์ นักแสดงชายผู้เคยได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาของนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากหนังเรื่อง Walk the Line ในปี 2006 และ The Master ในปี 2012 อีกด้วย ยังไม่พอแค่นั้นเขายังเคยเข้าชิงสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ กาดิเอเตอร์ ปี 2000 มาแล้ว และนี่จะเป็นอีกครั้งที่เขาคงจะเข้าใกล้รางวัลออสก้ามากที่สุด เพราะโจ๊กเกอร์ในเวอร์ชั่นนี้เรียกได้ว่าเป็นการแสดงที่ยากลำบากในการแสดงอีกตัวนึงเลย เพราะว่าเป็นตัวละครที่ถูกตั้งมาตรฐานมาแล้วจากนักแสดงยอดเยี่ยมอีกคนนึงในอดีต อย่าง แจ็ก นิโคตสัน หรือ มาร์ก ฮามิลล์ ต้องบอกเลยว่าเป็นงานที่ยากระดับหนึ่ง ขนาดนักแสดงอีกรายที่ยอดเยี่ยมอย่าง จาเรด เลโต ที่สามารถคว้ารางวัลยอดเยี่ยมอย่างรางวัลออสก้ามาแล้ว ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จกับบทบาทของโจ๊กเกอร์เท่าที่ควร
แต่ถ้าพูดถึง วาคีนฟีนิกซ์ เขาทำได้แถมทำได้อย่างยอดเยี่ยมและมีเสน่ห์จนน่าขนลุกเลยล่ะ เขาค่อยๆกลายเป็นโจ๊กเกอร์ได้อย่างละเอียดละอ่อน ใช้เทคนิคคือเขาไม่ได้พยายามเป็นโจ๊กเกอร์ตั้งแต่ต้นนั่นแหละ เพียงแต่เป็นแค่คนธรรมดาที่มีความผิดปกติ และผิดแปลกไปจากคนทั่วไป มันจึงทำให้เราเข้าใจและสามารถอินไปกับ ตัวละครที่ไม่ต่างจากมนุษย์ จนสุดท้ายเขาก็ค่อยๆ กลายเป็นวายร้ายที่โด่งดังที่สุดในโลกคนหนึ่งได้อย่างที่โลกต้องจารึก จุดเด่นที่เราต้องอึ้งในรายละเอียดมีตั้งแต่ ท่าทางกายภาพดวงตาและสีหน้า รวมถึงการวิ่งการใช้มือและการหัวเราะของตัวละคร มันเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมเกินจะบรรยาย
ความรู้สึกหลังดูภาพยนตร์เรื่อง JOKER 2019
เรียกได้ว่าเป็นหนังที่ทำให้จิตตกและตึงเครียดมากที่สุดเท่าที่เคย ดูหนังJOKER2019 มา
ทั้งเรื่องนั้นตัวหนังจะโฟกัสอยู่กับตัวละครหลักอย่างอาเธอร์ และประเด็นอย่างที่ว่า การที่คนคนนึงจะกลายเป็นคนบ้าเนี่ย มันจะต้องผ่านอะไรกันมาบ้าง ซึ่งหนังสามารถทำออกมาได้อย่างลึกซึ้งเลยทีเดียวลึกซึ้งขนาดที่จะทำให้คนดูคล้อยตามไปได้ง่ายๆ อย่างกับเรานั้นผ่านเหตุการณ์นั้นมากับตัวเอง ทั้งเรื่องสังคมที่ไม่ใยดีเลย แล้วสภาพสิ่งแวดล้อมที่แสนจะโสมมสกปรก การแบ่งชนชั้น เรื่องของตัวตนและนำสิ่งพวกนั้นมาหลอมรวมกัน และนำมาปะติดปะต่อให้คนดูได้เครียดตาม และสามารถเข้าถึงหัวอกของตัวละครโจ๊กเกอร์ที่โดนสังคมย่ำยี จนเละเทะ และหนังยังสามารถนำอารมณ์ที่ทำให้คนดูสะสมตลอดทั้งเรื่อง มาระเบิดในตอนท้ายเหมือนกับโจ๊กเกอร์ได้อย่างลงตัว
และน่าจดจำที่สุด เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ไม่เคยมีมาก่อนที่จะทำได้ขนาดนี้ แถมภาพยนตร์นั้นยังดึงด้านมืดที่สุดของจิตใจมนุษย์อย่างเราออกมาได้อีกด้วยนะ โดยส่วนตัวที่ไปดูรู้สึกยิ้มไปกับความรุนแรงของภาพยนตร์ ที่พยายามจะนำเสนอทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นสิ่งไม่ดีแต่เราก็รู้สึกสะใจและรู้สึกว่าทำแบบนั้นแหละมันดีแล้วพวกคนพวกนี้มันน่าหมั่นไส้ เรียกได้ว่าผมก็ยังไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงรู้สึกสะใจขนาดนั้น
และการแสดงของวาชินฟีนิกซ์ ผมรู้สึกว่าเขาเหมาะสมที่จะได้รางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำฝ่ายชายไปอย่างไม่ต้องคิดอะไรเยอะเลย เพราะเรื่องนี้นักแสดงนำต้องแสดงความเจ็บปวด ลวดร้าว ความโดดเดี่ยว และรวมถึงความสิ้นหวังสุดๆ ออกมาให้ได้ทั้งที่เป็นตัวละครโจ๊กเกอร์ที่มักจะหัวเราะและยิ้ม เหมือนกับคนบ้า ถ้าเป็นนักแสดงที่ไม่มีความสามารถจริงๆพอมาเล่นบทนี้บอกตามตรงนะว่า
ตัวละครโจ๊กเกอร์ตัวใหม่อาจทำให้คนดูอย่างเราตลกและไม่อินก็อาจจะเป็นได้ เพราะตัวบทนั้นไม่มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เรียกร้องการแสดงขั้นสูงอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแสดงออกมาทางบุคลิกภาพ รวมถึงท่าทางและสายตาอะไรต่างๆอย่างที่เราพูดไปข้างต้น ถ้านักแสดงไม่มีฝีมือและไม่อินกับตัวละครจริงยังไงในภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นก็คงจะไปไม่รอดแน่นอน
การแสดงของ วาสินฟีนิกซ์ ส่วนทั้งที่ชอบและไม่ชอบ
การแสดงของ วาคีน ฟีนิกซ์ เราจะพูดถึง หนังตัวตลก สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ ความคิดเห็นของผมส่วนตัวจะเป็นสิ่งเดียวกันคือ อาการป่วย Pba หรือภาวะควบคุมการหัวเราะไม่ได้ของ ตัวละครอาเธอร์ ถึงแม้ว่าตัวผมนั้นจะไม่เคยเห็นอาการป่วยของโรคนี้แบบจริงๆ หรือเคยเห็นใครเป็นมาก่อน แต่เหตุผลที่ชอบคือ สีหน้าหรือแววตามันบ่งบอกได้ถึงความเจ็บปวด สุดๆ
รวมถึงความอึดอัดที่อยากปล่อยออกมากับโรคแบบนี้ที่ทำให้คนอื่นนั้นเข้าใจผิด ซึ่งเจ้าตัวทำได้สุดจัดบอกตรง ส่วนเหตุผลที่ไม่ค่อยชอบก็คือเมื่อนักแสดงทำได้ดี มันเลยเกิดความน่าอึดอัดใจให้กับผู้ชม เวลาอินกับเรื่องราวของตัวละครนี่แหละเรารู้สึกสงสาร เฮ้อจะทำอะไรออกมาได้ดีขนาดนั้น เหมือนคนจริงๆกับเหตุการณ์จริงๆกำลังเกิดขึ้นกับเขาเลย
และหนังมีเนื้อหาบางส่วนที่ตั้งใจจะหลอกคนดูให้รู้สึกสับสน และขอเตือนไว้เลยว่าถ้าจะดูภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องตั้งใจดูและเกาะติดแบบว่า ไม่พลาดสายตาเหมือนกัน เพื่อที่จะเก็บรายละเอียดและทำความเข้าใจเนื้อหาทั้งหมด เพราะถ้าไม่ตั้งใจดูจริงๆนั้นอาจจะเข้าใจผิด และพลาดประเด็นสำคัญไปได้
แล้วภาพรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถชื่นชอบได้นะ เพราะมันเป็นหนังดราม และอาชญากรรมแบบเต็มตัวเลย ไม่ใช่หนังบันเทิงหนังคอมเมดี้ผสมนำหน้า หรือเป็นหนังฮีโร่ที่ มีความเท่ ความเร้าใจ Action ให้ชวนติดตาม ถ้าเป็นคนที่ชอบดูหนังบันเทิงเต็มตัวอาจจะปฏิเสธภาพยนตร์ Joker Version นี้ไปเลยก็ได้
สรุปบทความรีวิวทั้งที่เป็นจุดเด่นจุดสังเกตและโดยรวม
จุดสังเกตคือ มันเป็นหนังดราม่าที่ต่อต้านฮีโร่อาจจะไม่ถูกใจสายฮีโร่แบบเฟี้ยวฟ้าว และความรุนแรงแบบไม่ต้องการเหตุผล ถึงจะมีไม่ค่อย แต่ถ้าปรากฏทีทำให้เรารู้สึกหลอน แล้วหดหู่ เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ไม่เหมาะกับเด็กๆ ดูแล้วอาจจะจิตตกไม่เหมาะสมกับผู้ชมใน บางกลุ่ม การดำเนินเรื่องกว่าจะเปิดเผยเนื้อแท้ของตัวละครและหนังค่อนข้างช้าอาจทำให้เบื่อนิดๆหน่อยๆ
สรุปแล้วเป็นหนังที่ถ่ายทอดความรู้สึกของคนธรรมดาคนหนึ่งที่กลายเป็นโจ๊กเกอร์ให้เราได้เห็น ว่าต้องเจออะไรมาบ้างในชีวิตประจำวัน และทำให้คนดูนั้นคล้อยตามความรู้สึกของตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม เอาเป็นว่าไม่มีที่ติเลย และบวกกับการแสดงของนักแสดงนำอย่าง วาคีนนฟีนิกซ์ ที่สามารถแสดงออกมาได้อย่างงดงามจริงๆ จนทำให้เรารู้สึกว่าเข้าถึงได้อย่างแท้จริง
และในส่วนสุดท้าย ผมขอให้คะแนนที่ 9.9 เต็ม 10 เอาตรงๆหนังดีจนไม่มีอะไรให้เราติเลย แต่มีอยู่เรื่องเดียวที่ผมจะหักคะแนนไป 0.1 คือ มันเป็นหนังที่ไม่เหมาะกับทุกคน นั่นเอง และทั้งหมดนี้เป็นเพียงความรู้สึกของผมหลังดูภาพยนตร์เรื่องนี้ เพียงเท่านั้น เพราะภาพยนตร์เป็นภาพยนตร์แนว ดราม่าจิตวิเคราะห์จิตวิทยา ที่คนชอบหนังแนวนี้ก็จะรู้สึกชอบมากที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่ส่วนคนที่ไม่ชอบก็จะไม่ค่อยชินกับรสชาติของภาพยนตร์สักเท่าไหร่ และอาจจะเกลียดไปเลยก็ได้ ถ้าใครจะดูนั้นก็สำรวจตัวของตัวเองด้วยนะครับว่า ชอบภาพยนตร์แนวนี้หรือเปล่า หรือว่าชอบภาพยนตร์แนวไหนก่อนที่จะดู
และสุดท้ายขอเตือนว่าต้องใช้ วิจารณญาณในการรับชมนะจ๊ะ เพราะภาพยนตร์นำเสนอออกมาในรูปแบบที่ ไม่ควรเอาไปทำตามอย่างยิ่ง อยากให้ทุกคนที่มาดูภาพยนตร์เรื่องนี้มองมันเป็นแค่ ภาพยนตร์สนุกๆ ที่ตั้งใจจะทำออกมาให้แปลกและแหวกแนว ไม่ใช่ว่าพอดูแล้วทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่มีตัวตนไม่มีคนสนใจ แบบโจ๊กเกอร์ แล้วเอาไปก่ออาชญากรรมทำตาม เอาเป็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มันเนื้อเรื่องมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยแหละ และต้องแยกให้ออกด้วยว่านี่คือโลกแห่งความเป็นจริง และก็อีกอย่างคนที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือโรคเกี่ยวกับจิตนั้นไม่ควรดู เพราะทั้งเรื่องนั้นมันดิ่ง หดหู่ สุดท้ายนี้ขอให้สนุกกับการอ่านบทความนี้นะครับ การรีวิวครั้งนี้เป็นเพียงแค่ความรู้สึกส่วนตัวเท่านั้นนะขอย้ำไว้เลย