รีวิว Beyond Evil

รีวิวBeyond Evil

1

รีวิว Beyond Evil ความเหนือในการเล่าเรื่องที่คุ้นเคยให้ออกมาเกินกว่าความคุ้นเคย มอบความรู้สึกเหมือนเป็นปลาที่ฮุบเหยื่อของนักตกปลาคนเดิม ครั้งแล้วครั้งเล่า

Beyond Evil สืบเนื่องมาจากการสนทนาในวันหนึ่งกับท่านผู้อ่านถึงงานซีรีส์เกาหลีที่เข้าชิงรางวัล แพ็คซัง อาร์ตส์อวอร์ดส์ (2021) ซึ่งเป็นรางวัลประกาศความยอดเยี่ยมของวงการบันเทิงบ้านเขา ซึ่งในการสนทนานั้นมีคำถามที่ว่าผู้เขียนเองชื่นชอบ  เชียร์  และคาดว่าเรื่องไหนจะคว้ามงกุฎทองฝังเพชรไปครอง ดูหนังออนไลน์

แต่ตอนนั้นเองผู้เขียนกลับให้คำตอบไม่ได้  เพราะ ณ วันนั้น  ห้าอรหันต์ทองคำผู้เข้าชิงมงผ่านตาผู้เขียนไปเพียงสามเรื่อง  หนึ่งคือ It’s Okay To Not Be Okay อีกหนึ่งคือ Flower Of Evil ซึ่งเป็นการได้ชมก่อนที่จะรู้ผลการประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงในตอนนั้น

2

จากนั้นก็มาได้ชม My Unfamiliar Family ที่เป็นหนึ่งในห้าผู้ท้าชิง  แต่ที่ยังให้คำตอบไม่ได้ว่าชอบ  ชื่นชม  หรือเชียร์เรื่องไหนเป็นพิเศษ  เป็นเพราะยังไม่ได้พิสูจน์ให้ครบทุกเรื่อง  ครั้นจะตอบแบบฟันธงไปเลยก็กระไรอยู่   จึงได้ติดค้างคำตอบไว้เพื่อขอมาพิสูจน์ดูว่าห้าเรื่องที่ว่านั้นมีดีที่จุดไหนจนทำให้เป็นห้าอรหันต์ทองคำ   จึงเป็นที่มาของปณิธานอันแรงกล้าในการชมซีรีส์ให้ครบทั้งห้าเรื่องที่เข้าชิง  ซึ่ง หลังจากที่ได้ชมครบก่อนวันประกาศผลในวันที่ 13 พ.ค. 2021 ที่ผ่านมา  ส่วนตัวแล้วผู้เขียนคาดว่าน่าจะเป็น My Unfamiliar Family ที่ต้องยอมรับว่าเป็นแนวที่ผู้เขียนถนัดและชมชอบเป็นพิเศษ  เรื่องนั้นก็มีความยอดเยี่ยมในแนวดราม่าที่จัดจ้าน

แต่เมื่อผลรางวัลในวันนั้นได้ประกาศออกมาปรากฎว่าผู้เขียนก็หน้าแหกไป  เพราะผู้พิชิตรางวัลซีรีส์ยอดเยี่ยมกลายเป็นงานแนวสืบสวนเชิงจิตวิททยาสุดเข้มที่พาอารมณ์ดิ่งลึก  ที่ผู้เขียนได้ดูมาตั้งแต่ตอนที่อยู่ในแอป viu ตอนนั้นแล้ว  และงานซีรีส์เรื่องนี้คงบอกเลยว่าเกินกว่าคำว่ายอดเยี่ยม แม้จะไม่สมใจผู้เขียนในเรื่องของรางวัลแต่ก็ถือว่าคู่ควร กระทั่งเรื่องนี้ไปมาอยู่บนแพล็ตฟอร์มที่แพร่หลายกว่าอย่าง NETFLIX มาได้สักพักแล้ว  ผู้เขียนจึงเลือกเอาบทความนี้มาเผยแพร่  เพราะเรื่องนี้มีดีเกินกว่าจะถูกมองข้าม  และสำหรับคอซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนถ้าไม่ดูเรื่องนี้อาจเรียกว่าเสียชาติเกิด Beyond Evil

รีวิว Beyond Evil เรื่องย่อ

เรื่องเกิดขึ้นที่ชุมชนเล็กๆที่ชื่อว่ามันยาง ชุมชนที่ผู้คนแทบจะรู้จักกันหมด  เรื่องราวที่ซับซ้อนนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2000 เมื่อมีการพบศพหญิงสาวถูกฆาตกรรมแล้วทิ้งไว้กลางทุ่งอ้อที่เปลี่ยวร้างและศพได้ถูกตัดปลายนิ้วทั้งสิบนิ้วออกไป  อีกทางหนึ่งก็มีอีกหนึ่งหญิงสาวที่หายไปคืออียูยอง (มุนจียอน) และที่น่าสะพรึงกว่าคือปลายนิ้วทั้งสิบของเธอถูกวางไว้หน้าบ้านตอนเช้าตรู่  และด้วยหลักฐานบางอย่างทำให้ผู้ต้องสงสัยในคดีสะเทือนขวัญคนทั้งเมืองนี้คือพี่ชายฝาแฝดของอียูยองคืออีดงชิก (อีโดฮยอน) หนังสืบสวนสอบสวน

3

ยี่สิบปีให้หลังอีดงชิก (ชินฮาคยุน) กลายมาเป็นตำรวจในสถานีตำรวจย่อยมันยาง  และการมาของตำรวจหนุ่มไฟแรง อย่างสารวัตรฮันจูวอน (ยอจินกู)ก็ทำให้ทั้งเมืองต้องสั่นสะเทือนรวมถึงอีดงชิ เมื่อเรื่องเปิดหน้าท้าดวลเลยว่าฮันจูวอนสงสัยว่าคดีที่เกิดขึ้นในมันยางเมื่อยี่สิบปีก่อนนั้น อีดงชิก็คือฆาตกรที่หลุดพ้น จากกระบวนการยุติธรรมหรือไม่

และมีจุดมุ่งหมายจะจับให้มั่นคั้นให้ตาย  แต่ทว่ากำแพงที่หนุนอีดงชิกอยู่คือสมาชิกในชุมชน ที่รู้ว่าแท้จริงแล้วอีดงชิเป็นคนเช่นไร  แต่การพบศพหญิงปริศนา  ในทุ่งอ้ออีกครั้งก็ทำให้สองคู่หูคู่อาฆาตต่างวัย ยิ่งเหม็นหน้ากันหนักเข้าไปอีกเมื่อทั้งสองฝ่ายเริ่มสงสัยกันและกัน

ถ้านั่นยังไม่พอเรื่องยังพาให้เห็นความน่าสงสัยของคนทั้งสองคนแต่หนักไปทางอีดงชิมากกว่า  กระทั่งเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวอีดงชิอีกครั้ง  เมื่อเด็กสาวที่เขารักไม่ต่างจากลูกหายไปพบเพียงปลายนิ้วสิบนิ้ววางอยู่หน้าบ้านของเหยื่อ  แน่นอนว่าเบาะแสทุกทางมุ่งตรงไปยังอีดงชิชายผู้ถูกประณามหยามเหยียดว่าเป็นฆาตกร  เป็นคนฆ่าน้องสาวตัวเองมาตลอด  ชายผู้ต้องทุกข์ทรมานมานานกว่ายี่สิบปี  แล้วคดีการหายไปของหญิงสาวนางหนึ่งก็ได้เป็นไม้ขีดไฟที่ถูกจุดให้เริ่มมองเห็นความเกี่ยวพันกันระหว่างปัจจุบันกับอดีต  เมื่อเรื่องราวที่พัวพันกันเป็นร่างแหมันก็ต้องแก้  เมื่อแก้ไม่ได้ก็ใช้กรรไกรตัดมันเลย

งานด้านบทที่แข็ง แกร่งทั่วทั้งแผ่น

ด้วยบทที่ไม่มีจุดบอดหรือรูโหว่  บทที่มอบอารมณ์ของปลาที่ฮุบเหยื่อตัวเดิมของนักตกปลาคนเดิม  โดยไม่ได้ฉุกคิดว่านั่นคือการเล่นกับสมองของเจ้าปลา  ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ผู้ชมมักจะได้เห็นจากงานซีรีส์สืบสวนที่ขายความซับซ้อนซ่อนเงื่อนที่เป็นซีรีส์ขนาดยาว  นั่นคือพลังที่อาจจะไม่แรงไปได้ตลอดทาง  หรือมีบ้างที่เผยปมแรกหรือสองแล้วพลังตกแต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้  ด้วยการเล่นกับสมองและความคิดผู้ชมทั้งหนักทั้งหน่วง เพราะนี่คือความพลิกผันไปมาในระดับยอดเยี่ยมในการชี้นำให้สงสัย การล่อหลอกอย่างมีชั้นเชิงต้อนให้จนมุม มอบความเห็นใจปนกับความกังขาในตัวของอีดงชิ

อารมณ์แรกคือความเห็นใจสงสารและเชื่อมั่น แต่บทก็ยังนำพาความน่ากังขามาประเคนให้อยู่เรื่อยจนแม้จะเชื่อใจแต่ก็รู้สึกบางอย่างติดอยู่  ถ้านั่นยังไม่พอความน่าสงสัยนั้นก็ยังจัดเต็มด้วยความที่มองหน้าใครก็น่าสงสัยไปหมด มอบความรู้สึกไว้ใจใครไม่ได้แม้แต่คนเดียว และมันคือการชี้นำให้คิดและคาดเดา  แล้วเมื่อถึงเวลาก็ให้รางวัลกับผู้ชมได้  แต่รางวัลนั้นก็เหมือนกับเหยื่อตกปลาที่สวยงามที่ติดกับปลายเบ็ด  และปลาที่เรียกว่าอารมณ์และสมองของผู้ชมก็ฮุบเหยื่อเข้าเต็มเปาหวังลิ้มรสชาติอันโอชะ  เพื่อที่จะรู้ว่าสิ่งที่อยู่ในปากมันกลืนไม่ได้คายไม่ออก  มันคือเหยื่อปลอมที่นักตกปลาจัดให้

4

แล้วยังไม่หนำใจนักตกปลาก็ปล่อยปลาลงน้ำ  เพื่อที่จะใช้เหยื่อตัวเดิมขว้างลงน้ำอีกครั้ง  แล้วปลาตัวเดิมก็ยังฮุบเหยื่อตัวเดิมตัวนั้นอีกเช่นเดิม  และมันเป็นเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้สิ่งที่ตามมาคือพลังที่แรงดีไม่มีตก จนกระทั่งปมแรกผ่านไปจากการคลี่คลายคดีแรกและเฉลยตัวฆาตกร  ซึ่งโดยปกติทั่วไปเรื่องมันจะดร็อปลงแต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้  เพราะหลังจากนั้นอย่างที่บอกว่ามันคือการจุดไม้ขีดไฟเล็กๆหนึ่งก้านเท่านั้น  ก่อนที่ไฟเล็กๆจากไม้ขีดจะไปจุดเชื้อไฟไห้ลุกลามเผาผลาญทุกสิ่งกลายเป็นเล่นใหญ่  และไปถึงจุดตัดกันเรื่องของความผูกพันและความจริงได้อย่างแนบเนียน เนียนจนกระทั่งผู้ชมแทบไม่รู้สึกว่ามันได้ถูกฝังไว้ให้ผู้ชมซึมซับได้โดยไม่รู้ตัว

จนเมื่อถึงจุดหนึ่งสมองผู้ชมอีกเช่นเคยที่จะคิดย้อนไปถึงความสัมพันธ์ที่มีพัฒนาการเรื่อยๆ  ซึ่งความจริงเรื่องแบบนี้ที่เป็นเรื่อง คดีฆาตกรรมแล้วพัวพันกันกับผู้เล่นเบอร์ใหญ่ๆแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรแต่ความต่างคือรายละเอียดข้างใน  ซึ่งด้วยเรื่องหลักนั้นความจริงไม่เกินคาดเดา  เพราะไม่ว่ายังไงผู้ร้ายก็ต้องได้รับผลกรรมของตนเอง

เพียงแต่รายละเอียดที่วางไว้จะพาผู้ชมให้เร้าใจ  อับจนหนทาง  และสงสัยว่า  ฝ่ายดีจะเล่นงานคนร้ายได้ยังไง  วิธีไหน  ซึ่งบางทีเหมือนกับว่าบทจะบอกอะไรบางอย่างกับผู้ชมว่า  ฆาตกรโรคจิตแม้จะโหดเหี้ยมแต่นั่นอาจเป็นเพราะความโรคจิตหรืออาการป่วย  แต่คนธรรมดาที่ใช้อำนาจ  อิทธิพล  เพื่อบิดเบือนความยุติธรรมนั้นอาจบางทีก็น่ากลัวกล่าฆาตกรโรคจิตเสียอีก

รีวิว Beyond Evilความจริงและความผูกพัน

การันตีด้วยรางวัลบทละครยอดเยี่ยม เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เล่นเรื่องมิติทางอารมณ์ที่แรงมาก โดยเฉพาะเรื่องความมิติเชิงความสัมพันธ์ของตัวละคร  และมันมีผลกับน้ำหนักหรือการตัดสินใจกระทำการบางอย่างของตัวละคร  แต่ที่เจ๋งคือการปล่อยมันเป็นไปตามธรรมชาติด้วยการฝังไว้ข้างในอารมณ์ที่น่าสงสัยไปทั่วทุกคนอย่างแนบเนียน เพราะท่านที่ชมเรื่องนี้แล้วท่านปฏิเสธลงหรือไม่ว่า  ความสงสัยผุดขึ้นมาเต็มสมอง  การคาดเดามาเต็มที่ว่าเรื่องที่ผ่านเข้ามาตอนนี้จะมีทางออกเช่นไร  แต่สุดท้ายก็กลายเป็นเหวอไปเพราะเรื่องขยันทิ้งเชื้อด้วยความสงสัยให้ปะทะกับความเชื่อมั่นบางอย่าง

และก็ใช้อารมณ์นี้มาซ่อนเร้นเรื่องความความผูกพันและมิติทางความสัมพันธ์ ของตัวละครฮันจูวอนกับอีดงชิ ที่ความจริงมีพัฒนาการสูงมากแต่ถูกแฝงไว้เพื่อเป็นตัวแปรในตอนท้าย  ซึ่งคงต้องยกเครดิตให้เป็นความชาญฉลาดที่น่าชื่นชม  เพราะความจริงเมื่อลองมานึกย้อนดู เรื่องความผูกพันกับคนรอบตัวนั้น  มันได้ถูกเสนออย่างเข้มแข็งตั้งแต่ต้นแล้ว

เพียงแต่สมองผู้ชมถูกเบี่ยงเบนไปด้วยอารมณ์สงสัยในคดีฆาตกรรม  สงสัยว่าใครคือฆาตกร  แต่ตั้งแต่แรกผู้ชมจะมองเห็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนระหว่างฮันจูวอนที่ไม่ยุ่งไม่สุงสิงกับใคร  เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ  ขาดมนุษยสัมพันธ์  ซึ่งมันดันมาสะท้อนกับอีดงชิรีวิวหนังไทย

5

ที่แม้อีดงชิกจะถูกพิพากษาจากสังคมว่าเป็นฆาตกรเป็นผู้ต้องสงสัยตลอดกาล  แต่อีดงชิก็ยังมีกำแพงข้างหลังให้พักพิงก็คือทีมตำรวจในสถานีเล็กๆในมันยาง   มีหญิงสาวเจ้าของเขียงขายเนื้อที่เชื่อมั่น  มีเพื่อนแท้ที่คอยประคับประคอง  อย่างน้อยแม้จะไม่ได้เลิศหรูยังมีคนที่ยังเชื่อในตัวอีดงชิก กลับกันกับทางฮันจูวอนที่ความสัมพันธ์ไม่มีความผูกพันอยู่เลยแม้กระทั่งพ่อที่เป็นนายตำรวจระดับสูงที่มุ่งหมายจะไปอยู่ยังจุดสูงสุดของอาชีพ

ความเดียวดายและความไม่เคยผูกพันกับใครของฮันจูวอนทำให้เขามองทุกคนน่าสงสัยหมด  และไม่น่าเชื่อว่าผู้ชมก็ดันเป็นไปกับเขา  และแน่นอนในแง่มุมนี้ผู้ชมจะเริ่มด้วยอาการชังขี้หน้าฮันจูวอนเต็มที่  แต่กระนั้นน้ำแข็งในใจของผู้ชมก็ค่อยๆสลายลงไปโดยไม่รู้ตัวไปพร้อมๆกับหัวใจของฮันจูวอนที่เริ่มมีความผูกพันเข้ามา

จนกระทั่งสิ่งที่ฮันจูวอนเชื่อมั่นเสมอมาว่าความผูกพันจะแหลกสลายเมื่อความจริงปรากฏ แต่สิ่งที่เขาเชื่อมันนั้นอาจไม่เป็นอย่างที่คิด  เมื่อความจริงสามารถทำลายได้แค่ความผูกพันที่ไม่จริงแท้หรือความผูกพันที่เกิดจากผลประโยชน์ เช่นความผูกพันในฝั่งของฮันจูวอนเอง

แต่กับฝั่งของอีดงชินั้นคือวามผูกพันกันในฐานะมิตรแท้ที่หล่อหลอมความเชื่อใจโดยที่ไม่ได้มีอะไรแอบแฝงจึงไม่อาจถูกทุบทำลายโดยความจริง  และเมื่อฮันจูวอนได้มามีส่วนร่วมกับความผูกพันฉันมิตรที่แท้จริงความเปลี่ยนแปลงจึงก่อเกิดจากข้างใน  และมันคือตัวแปรสำคัญที่ถูกฝังไว้อย่างแนบเนียน

เป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเรื่องราวทั้งหมด  หากไม่เชื่อลองนึกย้อนไปตั้งแต่แรกจะมองเห็นมิติเรื่องของความผูกพันที่จะต้องมาตัดกับความจริง ณ จุดใดจุดหนึ่งเสมอเรื่อยมา และมันกลายเป็นความล้ำลึกที่น่าชื่นชมว่าเกินกว่าความยอดเยี่ยม

การแสดงในระดับมาสเตอร์พีซทั้งทีม

อย่างที่เคยเขียนบ่นไว้บ่อยๆว่าสำหรับงานที่มีความตั้งใจมาหลอก ซ่อนเงื่อนซ้อนปมไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ารแสดงของนักแสดงคือส่วนที่สำคัญอย่างยิ่ง ความจริงผู้เขียนไม่กังขากับระดับของการแสดงของทางเกาหลีมานานมากแล้ว  เพราะส่วนมากงานที่ออกมาการแสดงจะอยู่ในมาตรฐานระดับสูง  เพียงแต่มันจะลงตัวกับบทที่ตั้งธงไว้หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง  เช่นเรื่องนี้ที่ซ่อนและซ้อนเงื่อนปมเล็กน้อยมากมาย  โยนเหยื่อให้ผู้ชมฮุบแล้วปล่อยครั้งแล้วครั้งเล่า  แต่ผู้ชมก็ยังคิดหาทางออกไม่เจออยู่ดี  และมันเป็นเช่นนี้ไปตลอดทางในรายละเอียด

ซึ่งหากนักแสดงรับผิดชอบหน้าที่ได้หย่อนมาตรฐานแม้เพียงคนเดียวสิ่งที่บทตั้งเจตนาไว้จะล้มเป็นโดมิโน  แต่กับเรื่องนี้ต้องเรียกว่ามาสเตอร์พีเท่านั้น  โดยเฉพาะชินฮาคยุนที่กลายเป็นผู้เล่นทรงคุณค่าของเรื่อง  จนกระทั่งคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมไปอย่างไร้ข้อกังขา  แม้อาจมีบ้างที่เห็นความเป็น Joker ในตัวละครของเขา

ไม่เชื่อลองนึกถึงตอนที่จับปลายปืนจากมือฮันจูวอนมาจ่อหน้าผากตัวเอง  สีหน้าแววตาภาษากายมันคือ Joker ของฮีธ เลดเจอร์ที่ชัดมาก  แต่แม้จะมองเห็นเป็นเช่นนั้นก็ใช่ว่าใครๆก็ทำได้ และรางวัลที่ได้รับจากเรื่องนี้คือเครื่องการันตี

6

ส่วนยอจินกูในบทฮันจูวอนที่ความจริงต้องเป็นคนที่มีมิติกว่า แต่ทว่าเขากลับเริ่มต้นด้วยความขัดเขิน และกลายเป็นถูกชินฮาคยุนและสามชิกชุมชนมันยางกลบฝังไปเรียบร้อย แต่ ด้วยความที่บทวางเรื่องของมิติความผูกพันที่มีข้างในตัวเขา ที่ต้องค่อยๆพัฒนาเลยทำให้เวลาช่วยให้เขาเริ่มฉายแสงขึ้นมาและก็ไต่ขึ้นมาในระดับที่น่าพอใจ แต่ก็ยังไม่ดีพอที่เรื่องนี้จะส่งให้ไปถึงระดับรางวัล ส่วนอีกสองคนที่เข้าชิงอย่างชเวซองอึนกับสาขานักแสดงหน้าใหม่หญิงยอดเยี่ยม ในบทหญิงสาวที่เผ้ารอการกลับมาของแม่ที่สูญหาย กับชเวแดฮุนในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมในบทเพื่อนสนิทที่ป่วยของอีดงชิก

มันคือเครื่องพิสูจน์ว่าการแสดงของนักแสดงในเรื่องนี้ยอดเยี่ยมขนาดไหน แม้กระทั่งคนที่ไม่ได้เอ่ยถึงเพราะเยอะมากมาย ก็มอบความน่าสงสัยและผู้ชมจะรักพวกเขาและชุมชนมันยาง ส่วนงานด้านภาพที่เสนอในความหม่นมืดยิ่งทำให้อารมณ์ผู้ชมจมดิ่ง ความไม่กระจ่างของงานด้านภาพก็คล้ายส่งเสริมอารมณ์ผู้ชมที่จะหาทางไปต่อไม่เจอ งานดนตรีที่เน้นเสียงกีตาร์อารมณ์หนังคาวบอย เสียงร้องที่โหยหวนยิ่งบีบความรู้สึกให้ดำมืดไม่รู้ว่าเรื่องจะจบลงเช่นไร หรือเรียกง่ายๆว่าไม่รู้ว่าเรื่องจะพาไปทางไหนเลยต้องเลิกคิดและเลิกคาดเดา แล้วปล่อยอารมณ์ไปตามสายน้ำเท่านั้นจนถึงจุดสุดท้ายที่กระจ่างอย่างไม่น่าเชื่อ

หรือมันจะกลายเป็นการเยียวยาหัวใจผู้ชมเรื่องของความบิดเบี้ยวในกระบวนการยุติธรรมในสังคม  การขุดเอาด้านมืดในใจมนุษย์มาเล่นจึงขายได้ เพราะเหมือนกับการเดาใจผู้ชมกลายๆว่า  บางทีการต่อสู้กับอำนาจนอกระบบในโลกแห่งความจริงนั้นบางทีก็เป็นไปไม่ได้เลย  แต่การได้สาสมใจในเรื่องจินตนาการในหนังในละคร  ก็กลายเป็นความสุขที่ได้เห็นพวกผู้ร้ายในคราบคนดีถูกจัดการด้วยวิธีที่สาสมใจแม้จะเป็นแค่การแสดงหรือเรื่องสมมติ  เพราะที่ได้เห็นในเรื่องนี้บางทีชื่อเรื่องที่ว่า Beyond Evil อาจไม่ใช่ความน่ากลัวของฆาตกรโรคจิต  หรือการใช้วิธีที่ไม่ต่างกันของตำรวจในเรื่อง  แต่เป็นการที่มนุษย์ที่มีอำนาจอิทธิพลที่จะปิดเร้นความจริงได้เหล่านั้นต่างหากที่เกินกว่าความน่าชิงชังกว่ากันแน่ “อย่าเพิ่งตายถ้ายังไม่ได้ดู”

รีวิวBeyond Evil ความรู้สึกหลังดู

ก็เล่าเรื่องตามสไตล์หนังและซีรีส์เกาหลีแหละ ที่เล่นกับความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นในใจคนดู โทนมู้ดของหนังค่อนข้างเครียดและบีบคั้นอารมณ์ถึงขั้นสุดแบบที่เราต้องอุทานออกมาพอถึงช่วงจุดพีคเลยว่าขุ่นพระ ใครเป็นคนร้ายกันแน่เนี้ย

ตัวละครหลักหรือเปล่า หรือคนนอก สนุกจนสับสนไปหมดว่าใครเป็นฆาตกรตัวจริงกันแน่ แถมพลอตเรื่องยังเอาแน่เอานอนไม่ได้เลย หลอกตาคนดูไปหมด ลึกลับมากๆ ชอบการแสดงของยอจินกูและชินฮาคยูนในเรื่องด้วย รู้สึกว่าไว้ใจใครไม่ได้เลย

7

นี่คือการสร้างความสงสัยเพื่อคลายความสงสัยอย่างไม่ต้องสงสัย  เรื่องนี้คือเต็มไปด้วยความสงสัยเพราะผู้ชมจะสงสัยไปทุกทาง  สงสัยไปทุกเรื่อง  สงสัยไปทุกคน  และที่น่าทึ่งคือทุกคนมีความเชื่อมโยงกันหมดแต่ผู้ชมก็ไม่รู้สึกว่าดูยากหรืองงมากมายเพียงแต่บางครั้งไม่กระจ่างเท่านั้น

แต่กระนั้นเมื่อถึงเวลาเรื่องก็มาเฉลยให้ได้ทราบเอง  และเมื่อตั้งธงไว้ที่ความน่าสงสัยแล้วมาผสมโรงกับอารมณ์ที่จมดิ่ง  หม่นมืด  ความรู้สึกที่หาทางไปไม่เจอ  ไม่รู้ว่าท้ายที่สุดจะลงเอยอย่างไร มันเลยทำให้พลังของเรื่องออกมาแรงไม่มีช่วงเวลาให้ถอนหายใจ  ระดมความคิดของผู้ชมเต็มที่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *